พี่หญิงใหญ่เปิดอก (คุย)

ตอนนี้ 8:37 นาที ผมมิสเตอร์มิโดรุก็ได้รับมอบหมายให้มาเล่าเรื่องราวไม้หัวให้ทุกท่านฟังต่อครับ แล้วมันก็จะเป็นลักษณะของ free writing ด้วย คือผมจะต้องเล่าไปเรื่อยๆโดยไม่หยุด ผมจะลองเป็นระยะเวลา 5 นาทีก่อนละกันนะครับว่าจะได้ไม่ได้ รอดไม่รอดนะครับ แต่ตรงนี้สุดท้ายก็อาจจะต้องโดน edit ก่อนถูกปล่อยออกสู่สาธารณชนต่อไป จะบอกว่า ผมอาจจะได้รับแรงบันดาลใจจากกิจวัตรประจำวันทุกวันของพี่ชายใหญ่ไม่ว่าจะเป็นการทักทายเพื่อนบ้าน ทักทายน้อง อย่างเช่นวันก่อนที่แม้ชายเล็กไม่อยู่ก็ยังไปทักทายคุณตาคุณยายแคคตัสแทนให้เป็นต้น หรือว่าล่าสุดคือการสะท้อน รีเฟลกซ์สิ่งที่พี่ทองควรปรับปรุงอยู่เสมอที่ห้องประชุมลับใต้โซฟา ดังนั้นเอาล่ะ ผมจะกลับมาเขียนรายงาน หรือว่าเล่าเรื่อง ไม้หัวต่ออย่างต่อเนื่อง เริ่มที่สัก 100 คำต่อวัน หรือว่าจะกำหนดที่ 5 นาที แทนก็ได้เช่นกัน

พูดพร่ำทำเพลงมาเยอะแล้ว วันนี้สิ่งที่ผมจะเล่าก็คือเรื่องราวความรัก ความรักที่ไม้หัวทุกต้นรู้ดีว่าควรจะเก็บไว้ลึกๆในใจ ไม่ควรพูดออกมา เพราะจะทำให้พี่สาว พี่หญิงใหญ่ของพวกเค้าเศร้าขึ้นมาได้ แน่ล่ะครับ ใครอยากจะทำให้คนที่เรารักเศร้าจริงไหม แต่ครั้งนี้ผมเลือกที่จะมาเล่า เพราะพี่หญิงใหญ่เองเป็นต้นที่มาบอกผมว่าเล่าออกไปเถอะ ถ้าอย่างน้อยมันจะช่วยทำให้ผู้อ่านข้างนอกนั้นได้รู้สึกว่า ยังมีเพื่อนอยู่อีกหนึ่งต้นที่เข้าใจเค้า และพร้อมจะเป็นกำลังใจให้ ก็เรื่องราวคลาสสิคของความรักนี่ล่ะครับ ที่มันก็อาจจะจบลงอย่างไม่สมหวัง กับการอกหัก

มันก็คงเป็นเพราะพี่หญิงได้ไปเจอกับดอกบัวผุดล่ะมั้งครับ ตอนที่เธอพาน้องๆต้นไม้ ชายกลาง หญิงเล็กแล้วก็ชายเล็กลงไปชมสวนดอกไม้ (ไม่สิต้องบอกว่า น้องๆไปช่วยเธอทลายกำแพงของสุนทรยศิลาต่างหาก) ไล่ไปทีละวัน สวนวันจันทร์ ​อังคาร พุธ จนไปจบท่ีสวนป่าวันอาทิตย์ (ไม่สวนมโหฬารก็ป่าขนาดมินิ) ซึ่งต้องเดินต่อเข้าไปลึกมาก ไกลจนกระทั่งกล้วยของจงหอยยูงคองที่พกไว้ที่หนวดบนลำตัว ไม่ใช่หนวดสิ ปีกนกยูง หมดเกลี้ยง พอเดินไปเจอบัวผุดเท่านั้นล่ะ เธอก็ได้รับพลังชีวิตกลับมาอย่างไม่รู้ตัว ก็คงเพราะมันเป็น passion ของเธอน่ะนะครับ การได้ผจญภัย เจอสิ่งน่าอัศจรรย์ใจ ทำให้พี่หญิงใหญ่หัวใจพองโตได้เสมอ

หลังจากที่ไม้หัว จงหอยยูงคอง สมเสร็จ แล้วก็หนอนน้อย เต้นรอบดอกบัวผุดจบ พี่หญิงใหญ่ก็นั่งลงกลางวง แล้วก็บอกน้องๆทุกต้น (ต่อไปนี้ผมขออนุญาตแทนสรรพนามไม้หัวและสิ่งมีชีวิตอื่นๆเป็น คน ละกันนะครับ เพื่อความกระชับในการใช้งาน ผมว่าไม้หัวแล้วก็สิ่งมีชีวิตอื่นๆไม่ถือสานะครับ ดูทุกต้นและทุกสิ่งมีชีวิตก็รักมนุษย์อยู่ครับ คงยอมเป็นคนให้ได้บ้าง)

เธอบอกทุกคนว่ามีเรื่องที่อยากจะเปิดใจ ทุกคนพร้อมจะฟังหรือเปล่า ในจังหวะนั้นทุกๆคนก็ต่างพร้อมกันพยักหน้า คงเพราะเป็นจังหวะที่ทุกคนปลดเปลื้องจากเรื่องราวในชีวิตตัวเอง จนพร้อมที่จะให้เวลาพี่สาว

"ขอบคุณทุกๆคนมากนะจ๊ะ ที่ให้เวลามารับฟังเรื่องราวของพี่" หญิงใหญ่เริ่มบทสนทนา ที่ชายขอบของส่วนป่าวันอาทิตย์ เวลานั้นเป็นช่วงบ่ายๆของวันปกติธรรมดาวันนึง มีแสงลอดผ่านเค้ามาจากผนังตึก ทุกคนยังสงสัยว่าทำไมถึงเป็นไปได้ที่จะมีป่าซ่อนตัวอยู่ในอาคารคอนโดกลางกรุงแบบนี้ แต่ก็คงเหมือนกับอีกหลายๆเรื่องในชีวิตที่เราก็ยังหาคำตอบไม่ได้

"เรื่องความรักของพี่นั่นแหล่ะจ้ะ ถึงพี่จะยังพยายามรักษาจิตใจให้กลับมาเป็นปรกติอยู่ พยายามไม่คิดถึงเรื่องราวเก่าๆ แต่พี่ก็อดเสียดายความทรงจำดีๆที่พี่เคยมีร่วมกับบอนไซซังไม่ได้ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่เดือนเท่านั้น ตอนนี้พี่ทำใจได้มากขึ้นแล้ว จนสามารถจะมองย้อนไปยังความทรงจำในอดีตได้อีกครั้ง”

“เรื่องมันเกิดที่เชียงใหม่จ้ะตอนนั้นที่พี่ตัดสินใจออกไปผจญภัยคนเดียว" ทันใดนั้นป่าก็เงียบสงัดลง เงียบเสียจนได้ยินเสียงการทำงานของปล่องความคิดบนหัวของชายกลาง “แม้ว่าเวลาจะผ่านไป 2 ปีครึ่งได้แล้ว แต่พี่ก็ยังจำวันที่ออกเดินทางได้ดี เพราะมันเป็นเพียง 1 วันก่อนหน้าวันเกิดพี่ทอง” จากนั้นหญิงใหญ่จึงเริ่มเล่าเรื่อง

Previous
Previous

Modest Beginning

Next
Next

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปไหวเหลือเกิน