Free Write มันดีจริงๆ Read Out Loud ด้วยล่ะ ให้ไม้หัวฟัง
ก่อนที่จะลืมสิ่งที่อยากพูด อย่างแรก มันช่วยให้ผมกลับมาอยู่ กลับมาเป็น กลับมาทำ มากกว่าคิด
อย่างสอง มันช่วยให้ผมได้รู้จัก appreciate ตัวเอง เหล่านี้คือสิ่งที่ค้นพบน่ะนะครับ ระหว่างที่ปล่อยให้ความคิดมันพรั่งพรู ‘ในขณะที่เขียนนะครับ’ อย่างที่พี่โจ readery บอกไว้ประมาณว่าการเขียนก็คือการคิดไปในตัวนั่นล่ะ แต่ผมว่าเป็นความคิดที่ต่างไปจาก นั่งโซฟาแล้วก็กุมขมับคิดตาจ้องกำแพงนะ คือผมว่ามันเป็นความคิดที่สดกว่า ที่สะอาดกว่า ที่จริงกว่า ที่บำบัดมากกว่า ยังไงก็ไม่ทราบครับ
อย่างที่สามคือ มันทำให้เราเห็นว่าจริงๆเหมือนเราก็มีสมองสองแบบอ่ะนะ คือแบบ writer’s mind ที่จะมาสดๆเลย กับสิ่งที่เราคิดในใจจริงๆ เราจะได้เห็นมัน กับ หัวอย่างอื่น เช่น ของเราบ่อยๆเลยก็คือ นักศีลธรรม มาตลอด ถูกผิดๆๆๆ อะไรแบบนี้จะต้องคอย censor ตัวเองตลอดเลย ซึ่งผมว่ามันก็มีข้อดีของมันทั้งสองวิธีของสมองน่ะนะครับ อย่างน้อย อย่างสักครู่นี้ แม่ผมถามว่าอยากไปต่างจังหวัด ไปกัน พอผมอ่านเข้า ผมก็เอาอีกแล้ว impulsive watsak ก็ตอบทันที ไปครับแม่ไปกันๆๆๆ อันนี้คงเป็นอารมณ์ mini free-write ได้รึเปล่านะ ซึ่งพอมา edit อ่านสิ่งที่ตัวเองพิมพ์ไปอีกที เอ๊ะ เดี๋ยวไปสัญญาแกพร่ำเพรื่อแล้วก็ทำไม่ได้แล้วก็จะมารู้สึกไม่ดีอีก เลยใจเย็นลง ถามตัวเองดีๆว่าจะสื่อสารยังไงดี ให้เราก็มั่นใจว่าเราทำได้ด้วย ก็เลยถามแกไปว่า ไปทริปวันเดียวได้ไหม เอ้อ ก็ดีนะ คือเราก็ขอข้อมูลเพิ่มขึ้นก่อนจะให้คำมั่นสัญญาลงไปนั่นเอง
ทั้งหมดทั้งมวงด้านบนตรงนี้ ทองมาเขียนเองเลยครับเนี่ย ตอนนี้ก็ 8:01 น. ขอให้เป็นวันที่มีความสุข มีความสงบสุข เลยดีกว่า สำหรับทุกๆท่านที่ร่วมใช้ชีวิตบนโลกนี้แล้วก็ทุกๆโลกครับ
8:03 น. มา edit ใส่ title เพิ่มว่า ให้ Read Out Loud ด้วยครับ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ยังไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ แล้วก็คิดว่าควรจะทำมากขึ้น เพราะรู้สึกว่ามันช่วย เค้าเรียกว่าไง ทำงานให้ครบสองจ๊อบ คือ writer ด้วย others ด้วย ไม่ใช่ว่าเขียนพรืดๆๆ อย่างเดียวแล้วก็จบ อาจจะ extreme คลั่งความสดใหม่ไปหน่อย วะฮ่าๆ โชคดีนายทอง ออ ไปอ่านให้ไม้หัวนั่นแหล่ะฟัง จะมีใครฟังนายอีกล่ะในห้องนอนเนี่ย