5 นาทีพอครับ
11:34pm เป้าหมายคือต้องการสร้างโมเมนตั้มขึ้นใหม่สำหรับโปรเจคอนิเมชั่น ตอนแรกควรจะต้องฉาย 9 ส.ค. แต่แมะ ทำไมวันนี้วันที่ 10 แล้ว ถามว่าโลกจะสลายไปหรือไม่ก็ไม่ ไม่เป็นไร เอาใหม่ เลื่อนสิครับเลื่อน! ฉาย 9 ก.ย. แทนใครจะทำไม ฮ่า! นี่สินะ ความหอมหวานของ “ศิลปินอิสระ”
ตอนนี้มองย้อนไป คิดว่าเราก็ได้เรื่องราวคร่าวๆแล้ว ซึ่งอยู่ที่ขั้นตอนของการหา 3 Act ประมาณนั้น จริงๆถ้าย้อนกลับตั้งแต่ก่อนอ่าน e-book ก็คือไปดู pixar in a box ซึ่งก่อนหน้านั้นก็คือดู skillshare ของ Seth Fried เกี่ยวกับการเขียนเรื่องสั้น ก็คือไปติดตรงที่ตอนเค้าพูดเกี่ยวกับ stake อะไรประมาณนี้ เอาเป็นว่าตอนนี้จะมาอ่าน e-book ต่อเพื่อดูว่าขั้นตอนต่อไปควรจะทำอะไร แล้วขั้นตอนไหนที่คิดว่าข้ามไปก่อนได้ เพื่อให้โปรเจคเสร็จออกมาก่อน น่ะนะครับ ท่าน
คือล่าสุดไปติดแถว act 2 ที่เริ่มถามว่าอยากให้เรารู้จักคาแรกเตอร์มากขึ้น ตรงนี้เราว่าเราเอาเท่านี้ก่อน คือรู้จักหญิงใหญ่ประมาณนี้ก่อน คล้ายๆว่า เราก็ต้องเชื่อ instinct ตัวเองด้วยว่าควรตัดแค่ไหน ไปต่อตอนไหนประมาณนี้ ให้พื้นที่สำหรับ the unknown and experimentation ด้วย ไม่งั้นจะเครียด คิดมากไป ไม่จบ ไม่อยากทำ แบบนั้น คล้ายๆว่ามีไกด์เป็นแบบโครงให้พาเราไปจนจบน่ะ เราจะทำตามทั้งหมดไหมอยู่ที่เรา อันไหนไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ (ซึ่งสุดท้ายพอทำเสร็จก็จะเข้าใจเองว่า สิ่งที่เลือกทำหรือไม่ทำให้ผลยังไง) เราแค่ต้องการอะไรให้คลำๆไปถึงจุดจบ ประมาณนั้น
ตอนนี้อยากทำให้จบก่อนมากๆ ก่อนจะมาต้องอ่านอะไรเยอะแยะแบบนี้ โว้ยยยยยยยยยย
ในเมื่ออะไรก็เป็นไปได้ ในเมื่อทางเลือกมีได้ไม่มีวันสิ้นสุด แล้วทำไมยังไม่ทำให้เสร็จดูสักทางก่อนล่ะ จริงไหม
เราแค่รู้คร่าวๆพอให้ตัวเองทำงานได้เสร็จ สุดท้ายไม่ชอบที่จะต้องรู้ก่อนทำทุกเรื่อง ชอบทำไปแล้วก็ถอยหลังมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นมากกว่า รู้สึกว่ามัน “authentic” กว่าการคิดเอาคำตอบล่วงหน้า
หนังสือเค้าถามว่า what’s really about or what’s the theme of your story? จำไม่ได้ว่าเคยเขียนอะไรแล้วก็ขี้เกียจกลับไปอ่านด้วย ถามใหม่ตอนนี้คงตอบว่า เกี่ยวกับเรื่องของ ความมั่นใจในตัวเอง self-esteemed ความมั่นใจที่จะใช้ชีวิตโดยไม่ต้องสนใจสายตาใคร ใครจะ approve เราหรือไม่ ชอบไม่ชอบเรายังไง ไม่สำคัญเท่าการที่เรายอมรับแล้วก็มีความสุขได้ด้วยตัวเอง อันนี้สิ ความสุขที่คูลที่สุด ยั่งยืนที่สุด