สำคัญสุดคือการเขียน

4:51pm ต้องไปลืมว่า การเล่าเรื่อง ก็ต้องเริ่มจากคำ จากภาษา จากการเขียนนี่ล่ะ วันนี้ก็เริ่มมีความยุ่งครับ ไหนจะเรื่อง ไปเรียนญี่ปุ่น (ซึ่งมีความสุขเหลือเกิน) แล้วก็เรื่องที่มีช่างมาทำห้องน้ำ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ส่งผลให้ท่อแตกเสียหายเป็นต้น แล้วก็ เรื่องอื่นๆจิปาถะ ที่ผมก็คงไม่สามารถเล่าได้หมด เอาว่า อยากมาเขียนไว้หน่อย ถึงประสบการณ์การเรียนวันแรกของผม กับคอร์สญี่ปุ่น วันนี้ หลังจากที่เจอการสอบกลางภาคไปเมื่อวาน อย่างช็อคๆ

อ้อ ก่อนอื่นขออวด ผมทำคะแนนการอ่านได้ดีมากเลยนะ! ดีใจมาก คุ้มแล้วที่ออกคนสุดท้าย ฮ่าๆ ชายกลางคงจะต้องภูมิใจในตัวผมเป็นแน่สำหรับเรื่องนี้ จนอาจารย์ถามเลยล่ะว่า คุณถนัดการอ่านเหรอ (เขินง่า ก็ จริงๆ เราก็อ่านนะ แต่ว่า อ่านไม่ค่อยจบ อ่านสะเปะสะปะ มันก็อ่านไม่ใช่เหรอไงนายทอง)

โอยพักแปบ แม่มา

โอเคครับ ตอนนี้ 11:06pm เหนื่อยมาก ชีวิตทำเอาเซไปไหนมาไหน ตอนนี้เพิ่งได้กลับมานั่งเงียบๆในห้องอีกครั้ง มีความสุขเหลือเกิน เดี๋ยวต้องทำการบ้านญี่ปุ่น คันจิ ก่อน พรุ่งนี้ก็มีสอบคันจิด้วย จะได้ว่ายน้ำตอนเช้าไหมน่ะ ฮรือ เอาว่า วันนี้ มีอะไรสนุกน่าเล่าอีก ก็แบบ มีสปีชแหล่ะครับ แบบ โอมายกอด ออกไปยืนพูดหน้าชั้นกับเพื่อนๆ แต่ก็มีกันประมาณ หกคนแบบน่ารักๆในหัวข้อ อะไรที่ตอนนี้เรากำลังอิน ผมเลยเลือกเล่าเกี่ยวกับการเล่าเรื่อง ส่วนของเพื่อนๆก็น่าสนใจมาก มีความสนใจเกี่ยวกับศาสนา การเซ็ทผม หายนะ (มั้งนะ ผมฟังไม่ค่อยออกสำหรับคำศัพท์) การเล่นกล้าม แล้วก็การวาดรูปครับ น่าสนใจจริงๆ อะไรอีกดี ได้เรียนคำศัพท์ และการใช้งานมากมาย ผมมีความสุขมากกก ถึงแม้จะเป็นศัพท์ญี่ปุ่น แต่ว่า ไม่รู้ดิ มันได้เข้าใจอีกครั้ง ถึง ความสนุกของ คำ และ ความหมายอ่ะ ทำให้ ฟังไป ก็เกิดไอเดีย อยากเอาไปใช้กับการเล่าเรื่องไม้หัว มากๆๆๆ เลยประมาณนั้นด้วยล่ะ เหมือนที่ผมคุยกับพี่ยอดวันก่อนว่าแบบ การได้มาเรียนญี่ปุ่น มันเหมือนได้กระเทาะ สนิม หรือเกราะที่บังตาเราไว้ ว่าภาษามันไม่มีอะไร ทั้งๆที่มันมีอะไร แล้วก็ไม่พอ มันเป็นจุดเริ่มของเรื่องราวต่างๆในชีวิตมนุษย์เลยนะ การที่ผมเรียนคุณว่า คุณ​หรือว่า มึง หรือว่า ท่าน มันให้ความหมายต่างกันไหมล่ะ คือมันทำให้ผมกลับมา ใส่ใจ ในการใช้ภาษามากขึ้น ซึ่งผมก็รู้สึกว่า มันจะช่วยให้ผมใส่ในใจการเล่าเรื่องต่อมาได้เช่นกันด้วย โดยไม่เกี่ยวว่าจะเล่าในภาษา ไทย อังกฤษ​หรือ ญี่ปุ่น ก็ตาม เหมือนว่าจะมาเรียนคำศัพท์ แต่จริงๆ มันก็ได้ฟังเรื่องเล่าไปในตัวนะ ที่ตลกกว่านั้น มีการเรียนคำว่า ทาเนะ หรือว่า เนะตะ ที่แปลว่า เมล็ดพันธุ์ ซึ่งมีการใช้งานแบบว่า หาเมล็ดพันธุ์ไอเดีย เอาไปสร้างงานอะไรแบบนี้ด้วย ฟินมากๆเลยล่ะ ไว้ขอฝังเมล็ดพันธุ์เห็นแรงบันดาลใจจากการเรียนญี่ปุ่นไว้กับตัวก่อนนะ สักพัก คงได้เจอต้นเรื่องราวต้นใหม่งอกออกมาก็ได้ (ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ในสวนเรือนกระจกของชายเล็ก อิอิ) เอาล่ะ ต้องไปทำการบ้านแล้ว และอ่านเตรียมสอบ บาย 11:12pm

Previous
Previous

自然は怖いものである。

Next
Next

日本語、もう一度。