Week 2 | Day 7 of 7 | 15 days left
10:23AM “Hey Siri, set a time for 25 minutes.” “25 minutes starting now” สิริตอบผมสักครู่เพื่อจะได้เริ่มงาน ตอนนี้ก็ผ่านมาครึ่งทางแล้ว ขอมาพิมพ์อะไรเพื่อเป็นการสะท้อนการทำงานของตัวเองเสียหน่อย ตอนนี้ก็คิดว่ายังถือว่าทำงานช้าอยู่ อนิเมชั่นบทยังไม่เสร็จเลย อย่างแรกคงเพราะว่าไม่ได้เอามาเริ่มทำตอนเช้าก่อนงานอื่น พอเอาไปท้ายวันก็เหนื่อยเกินไป ทั้งๆที่ลึกๆน่าจะเป็นสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จมากที่สุด ไม่เป็นไร วันนี้เราเริ่มใหม่ได้เสมอ วันนี้จะเอาเทคนิกที่เริ่มใช้ทำงานประจำคือ pomodoro ทำงาน 25 นาที พัก 5 นาทีมาใช้ เพิ่มอีก (นอกจากแอพปลูกป่าที่เอาไว้เก็บจำนวนเวลาทำงานให้ชื่นใจกับความเขียวชอุ่มของต้นไม้ แล้วก็แอพแฮบิตที่เอาไว้แทรคลูกโซ่ของงานที่ทำได้ซ้ำๆ แล้วนั้น)
วันนี้เลยตั้งเป้าหมายว่า ในเมื่อเป็นวันอาทิตย์ด้วย ก็อยากจะได้ลองทำงานสัก 4 มะเขือเทศ (25 5 25 5 25 5 25 5) หวังว่าจะจบบท storytelling ได้เป็นบทออกมาก่อนจะไปสู่การทำ storyboard อย่างนึงที่ต้องบอกว่าถึงแม้ว่าเราจะไม่ success ในงานนี้ แต่ การที่เราไปแต่งเพลงมา มันก็ได้บทเรียนมากนั่นคือความฟินของการทำเสร็จ แล้วก็สิ่งที่ได้เห็นเมื่อเราทำเสร็จ ซึ่งคือความผิดพลาดต่างๆ ซึ่งมันจะเกิดเป็นโมเมนตั้มที่ทำให้เราอยากทำงานต่อไป แล้วก็ไปแก้ไขในงานต่อไปแทน มันกลับรู้สึกดีที่ได้เห็นว่าตัวเองทำผิดพลาดตรงไหน อย่างน้อยมันอิ่มใจที่ได้เห็นงานเสร็จใช่ ทำให้กล้าที่จะลองผิดลองถูกมากขึ้น กล้าที่จะทำๆให้เสร็จดูตามที่เราทำได้ตอนนี้ ด้วยกำลังและความเข้าใจตอนนี้ ก็เข้าใจตัวเอง ในเมื่อเราเลือกที่จะลองอนิเมชั่นงานนี้เป็นโปรเจคที่กินเวลายาวดู (ซึ่งแน่นอน สิ่งที่ได้ย่อมต่างจากอนิเมชั่นหนึ่งวัน) เราก็ต้องยอมรับที่ว่ามันก็มีความเสี่ยงที่จะติดคิดมาก ติดกับดักความสมบูรณ์แบบ แต่ก็นั่นแหล่ะ มันก็เป็นการเรียนรู้ที่เกิดจากกระบวนการนี่เอง ตอนนี้ก็รู้แล้วว่า
ควรเริ่มงานสำคัญสุดก่อนเพื่อนตอนเช้า เพราะมีแรงมากที่สุด
ควรซอยเป้าหมายลงมาย่อยๆ แล้วจับเวลาทำงาน พัก สลับไป ถ้าเกิดคิดว่าจะใช้มากกว่า 1 session
ทำให้ ‘เสร็จ’ โดยปล่อยวางความสมบูรณ์แบบ ความสมบูรณ์แบบน่าจะเกิดจากการที่เราได้ทำเสร็จ เห็นความผิดพลาด ทำซ้ำใหม่ในงานต่อไป ไม่ใช่เกิดในความคิด ซึ่งทำให้เราเป็นอัมพาต ไม่ลงมือทำงาน ปวดหัว เครียด กินช็อกโกแลต อ้วนอีก นั่นแหล่ะครับ
โอเค พล่ามเยอะไปแล้ว เริ่มเหนื่อย พอก่อน หวังว่าตัวเองจะฉลาดขึ้นบ้างจากความผิดพลาดที่ผ่านมา สวัสดีครับ
10:32am มาต่อที่งาน ตอนนี้จะเอา cue card ที่เคยเขียนมาแบ่งลง 3 acts ดู
11:50am พักก่อนล่ะนะ ตอนนี้เขียนเรื่องมาถึงตรงที่ว่าหญิงใหญ่ได้ยินเสียงพี่ชายร้องไห้ แล้วทำให้ต้องตัดสินใจว่าจะไปหาดีไหม ตรงนี้เดี๋ยวคงต้องเขียนเป็นเส้นออกมาเคส ช่วย กับไม่ช่วย เหมืนอตอนนี้ต้องทำความเข้าใจเรื่อง wants, needs, obstacles, stakes อีกรอบ ว่าการตัดสินใจหนึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ของเรื่องราวแบบไหน คงประมาณนั้น แล้วก็อยากกลับไปดู pixar in a box อีกที แล้วก็ pixar shorts ด้วยเป็นตัวอย่าง แล้วก็ resources เหล่านี้อีก
https://www.khanacademy.org/computing/pixar/storytelling
https://www.youtube.com/watch?v=wShL57CXAwE
https://nofilmschool.com/2016/05/elements-storytelling-help-you-write-dynamic-scripts
18:03pm เอาละ มาต่อกันเถิดวัดสัก 25 นาทีนี้จะเขียน cue card ให้เสร็จ หลังจากที่มึนหัวไปมา ตอนนี้จะมายึดที่ e-book ล่าสุดก่อน ตำราอื่นวางไว้ก่อน pixar in a box or seth fried ไม่งั้นตีกันมั่วแน่ โอเคไหม แล้วก็ ที่กังวลว่าไม่รู้จะเล่าตอนที่หญิงใหญ่ตอบเยสหรือโนกับชายใหญ่ดี ก็ ง่ายๆ เลือกสักทาง แล้วทำให้เสร็จ เดี๋ยวก็รู้เองตอนมันจบ ไม่มีใครบอกได้หรอกว่าอะไรดีสุด มีแต่ อะไรที่ทำเสร็จแล้วตอนนี้วันนี้ เคไหม
18:55 done with first draft cue cards from beginning till end!!!!
