ผมก็ตอบไม่ถูก รู้แต่ว่าตอนนี้อยากเขียนบล็อก

8:45pm มันคงเป็นความรู้สึกแน่นอกยังไงสักอย่าง ไม่ก็อาจจะแค่ขี้เกียจที่จะต้องพิมพ์ล่ะมั้ง ไม่สิ เขียนมือ ล่ะมั้งครับ อ้อ ตอนแรกจะถามพี่ยอดว่า มันจะมีนักเขียนที่แบบว่า ไม่ต้องคอยมาแก้ใหม่ไหมนะ เพราะมันน่ารำคาญเหมือนกันนะคุณ การที่จะปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากการประดิษฐ์ การขัดเกลาเนี่ย เอาว่า ผมท่วมท้นอีกวัน จากตอนแรกที่กะจะพาแม่ ไปดูงานนิทรรศการ หลังจากที่พาเค้าไปกินพาสต้าอาม่า (คือกินสองวันติดเลยจ้า เมื่อวานพาเพื่อนสาวไปกินทีนึงตอนเย็น) แล้วก็นั่นแหล่ะ ปรากฏว่าเหนือความคาดหมายครับคุณ ทันทีที่แม่เริ่มเห็นโปสเตอร์ผม เค้าเริ่มสลัดความเป็นคุณนายแม่ทิ้งไป กลายร่างเป็นคุณแม่สุดเลิฟของผมอีกรอบ ก็คือ ท่าทีแกหายหมด อารมณ์ว่า ดูปลื้มปริ่มเต็มที่เลย กับงานที่ผมจัดแสดง คล้ายๆกับตอนที่พี่พัชรี มาเห็นงานเรา (ตอนนี้เค้างอนผมอยู่ล่ะ คุณไปง้อให้หน่อยสิ) จริงๆเหมือนหลายๆคนแหล่ะ มันก็คงเป็นอย่างงั้นอ่ะนะ งานศิลปะมันคงต้องให้อยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นจริงๆ ถึงจะสัมผัสได้ เค้าดูภูมิใจมาก รีบต่อสายหาพี่ๆผม โทรบอกให้มาดูงานของผม เลยเถิดไปกระทั้่งคิดสระตะเรียบร้อย ว่าจะเอาโปสการ์ดผมไปให้คนรู้จักตอนปีใหม่ จะซื้อกรอบผมไปอีกด้วย (ซึ่งก็ดีนะ เพราะผมก็ยังไม่ได้กะขายงานออริจินอลตัวเอง ก็จะได้เอากรอบอิเกียไประบายต่ออย่างมีปรโยชน์) เอาว่า นั่นแหล่ะ ผมก็ดีใจนะ ที่ครอบครัวให้การสนับสนุนและตื่นเต้น ถึงแม้ว่าผมก็จะยังต้องเดินทางต่อไปในโลกของการเล่าเรื่องอีกยาวไกล กับ ทั้งคอมมิคและ อนิเมชั่นก็ตาม แต่นี่ก็เป็นจุดกำเนิดที่ดีมากๆๆๆเลยล่ะ ได้มีหลานๆมาดูด้วย ไม่ว่าจะเป็นหลายขายทั้งสอง กับหลานสาวของพี่สาวคนโตอีกหนึ่ง มันยอดมาก ตอนแรกเพื่อนอีกคนนึงเกือบได้มา แต่ว่า ทุกอย่างยังไม่ค่อยลงตัว ผมต้องรีบกลับบ้านมาเรียนญี่ปุ่นด้วย ก็เลยยังไม่ได้เจอกันเสียทีน่ะ เอาว่า อะไรที่ประทับใจเหรอ โน้ตเขียวยังไงล่ะ ที่ผมอยากให้ทุกคนได้เขียนความในใจ บอกผมหน่อยว่า รู้สึก นึก คิด ยังไงกับงานนี้น่ะ ขอบคุณที่มีแต่คนให้กำลังใจกัน คุณก็คือส่วนหนึ่งของงานนี้นั่นเอง ที่ผมต้องการเอางานมาแชร์ ก็เพื่อได้ขอบคุณ​ได้เชื่อมต่อ ได้เล่าเรื่อง ได้สะท้อนชีวิตกลับมา ดีใจที่มีคนได้แบ่งปันตรงนี้ แล้วก็ยังดูมีคนสนใจพวกภาพเคลื่อนไหวด้วย แม่ตลกดี บอกว่า เนี่ยน่ะเหรอ ทองที่เห็นว่าห้องรกๆสกปรกๆ แต่ว่าสามารถทำงานออกมาได้สวยงาม เรียบร้อยแบบนี้ 555 ก็อย่างว่าน่ะนะแม่ครับ แหม ห้องมันก็เบื้องหลังความฟุ้งซ่าน ระบิดเถิดเทิงของผมก็ต้องปล่อยผม เป็นผม สักนิดละน่า (เห้ยเริ่มเมื่อยมือเหมือนกันว่ะ หรือว่าจะเริ่มอยากกลับไปเขียนอะแก) งั้นลองพิมพ์ให้ช้าลงหน่อยแล้วกัน แล้วก็ คงความ Freewrite ต่อไป อะไรอีกที่ชอบ ชอบที่โมริเขียนขีดเดียว หรือว่าโยชิ ขีดแบบว่า เป็น Jackson Pollock อะไรแบบนั้นน่ะ เราก็ยังคงมีความสงสัยเล็กๆนะว่าเราทำอะไรอยู่ ทำไมผย็องมาจัดงานแบบนี้ทั้งๆที่ยังไม่ได้ดังหรือว่ามีแฟนคลับมากมาย เห้ย คิดไรแบบนั้นวะ เรามั่นใจไง เรารักงานเรา เราอยากให้พวกเค้าได้มีเวทีได้พูดได้มาเจอคน มันไม่ดียังไง ตลกละ เหมือนที่แม่บอกเลยว่า ไปอ่านเรื่องชายใหญ่ก็เห็นว่า ทอง จริงๆ แกคงมีเหมือนสองเสียงอยู่ในหัวสินัะ อะไรแบบนี้ ผมก็ยังสงสัยนะจะไปต่อยังไง อนิเมชั่นแหล่ะ คอมิคแหล่ะ อาร์ตทอยแล่หะ ค่อยว่ากันปีหน้าน่ะอีกที เอาล่ะผมเริ่มพูดจาแบบว่าน้ำไหลไฟดับ แล้วนะตอนนี้ตามให้ทันนะ อะไรอีก แม่บอกว่านั่นแหล่ะ เหมือนผมมีสองเสียงในร่างเดียวอะไรแบบนี้น่ะ เราก็คิดนะว่า ถ้าเกิดงานเราอยู่แค่หนังสือ อะไรแบบนี้ แม่ก็อาจจะไม่ได้เห็นภาพรวมทั้งหมด หรือว่าคนอื่นๆก็ตาม ในเมื่องานเราหลกาหลายแล้วก็สะเปะสะปะ เราก็ต้องเอาทุกอย่างมาปะติดปะต่อ เชื่อมต่อให้เห็นในพื้นที่เดียว มันก็น่าจะทำให้โลกเข้าใจเราในฐานะของ ศิลปินนักเล่าเรื่อง มากขึ้นจริงไหม ใช่เลย พี่ทอง - หญิงเล็กส่งเสียงหาผมมาจาก คอนโดต้นไม้ใหญ่ยักษ์อีกครั้ง

Previous
Previous

ขอลงที่นี่ด้วยแล้วกัน

Next
Next

173 to 199