ครั้งแรกที่ readery

18:52 น.

วันนี้มาเวิร์คช็อปงานเขียน Trust Your Writer’s Mind กับโจที่ readery โอ้วมันดีมากๆ นี่จะพยายามเขียน 5 นาทีโดยไม่ต้องคิด คือเขียนไปเรื่อยๆ เพราะเป็นข้อแรกเลยที่พี่โจ้สอนมา

สิ่งที่เราได้อย่างแรกคือเวลาเขียนแล้วจะต้องกลับมาอ่านด้วย เราว่าเรามี writer’s mind อยู่นะ แต่ว่าเราไม่ได้กลับมาอ่านออกเสียงกับสิ่งที่เขียนไปมากเท่าไหร่ อาจจะมาแนวด้นสดเยอะเกินไปรึเปล่า 555 ตลกดีเค้ามีการบอกด้วยว่าถ้าคิดไม่ออกก็ให้เขียนมาว่าคิดไม่ออกๆๆๆๆๆอะไรแบบนี้นาะ แต่ก็ดีที่เราเลือกเขียนแบบพิมพ์คอทเพราะว่าเขียนได้ไวดี ชอบที่ใช้การจับเวลาด้วย เพราะทำให้เราหลุดจากการดิ่งลงไปในความคิด ชอบที่เค้าสอนเรื่องการให้ เห็น สังเกตเราเองได้เลยว่า เราติกกับ “ภาพในหัว” มากกว่าภาพตรงหน้า เรื่องนี้น่าจะเอาไปใช้ฝึกในการพรรณนาโวหาร ใึกการสังเกต เช่นตอนนี้เรานั่งในแท็กซี่กับโจ ได้ยินเพลงคนข้างล่างไปด้วย ที่พี่ชายท่านนึงพูดในห้องด้วย ดีจังเลย ชอบจัง การเขียนทำให้เราได้ระบายแล้วก็ได้บำบัด เผื่อจะได้เอาไปใช้ การแจ่งเพลงด้วย ชอบมากกับ free writing ชอบพี่โจ้มาก แกพูดแล้วทำให้เราตรึงอยู่กับคำแกได้ ต้องคอยผงกหัวงืดๆๆๆตลอดเลย อ้าว 57 แล้ว หมดเวลา!!!!!!

21:13 น.

ทองถึงบ้านแล้ว ด้วยความกลัวลืม เค้ายังไม่ทันได้เปิดโอกาสให้ชายกลางกับหญิงเล็กได้แชร์ประสบการณ์เรียนคลาสเขียนให้พี่ๆ น้อง และเพื่อนสิ่งมีชีวิตอื่นๆได้ฟัง เค้าก็รีบจัดแจง แปะโน้ตงานเขียนที่ตัวเองเขียนไว้ที่บล็อกก่อนกันหาย และจะได้เป็นการแชร์ออกไปให้โลกภายนอกได้รู้ด้วยกัน เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อใครได้บ้าง แล้วก็เพื่อตัวเค้าเองที่จะได้รู้สึก honest กับโลกใบนี้เพิ่มขึ้น อีกสักเล็กน้อยก็ยังดี

***ข้างล่างนี้ก็คืองานเขียนที่เค้าเขียนไว้ใน Evernote***

เจ็ดข้อ free writing

  1. keep your hand moving ห้ามอ่าน ห้ามแก้คำผิด ปล่อยตัวสบายๆ ถ้าไม่รู้จะเขียนอะไรให้เขียนว่าไม่รู้จะเขียนอะไร

อะไรก็ได้ห้านาที ห้ามหยุดมือ

วันนี้มาเรียนเวิร์คช็อปที่ Readery โดนบอกว่าห้ามหยุดมือ ห้ามคิด ตอนนี้รู้สึกค่อนข้างเกร็ง อาจจะเพราะกินกาแฟ แต่ก็เกร็งเพราะว่ากลัวว่าจะพิมพ์ดังไปแล้วก็ไปรบกวนเพื่อนๆข้างๆหรือเปล่าน่ะนะ ตอนแรกไม้หัวเหมือนจะไม่ได้มาด้วยเพราะว่าฝนตกหนัก เค้าคงอยากจำซ้อมดนตรีกัน เพราะว่าเพิ่งจะมีเวลาว่างกัน แต่นี่สุดท้ายดูเหมือนช่วยไม่ได้ เจ้าชายกลางก็ตามผมมาด้วยนี่สิ สะกิดผมใหญ่เลยตอนที่เปิดประตูเข้ามาที่ readery แล้วก็ตอนที่เจอกับพี่โจ้พี่เน็ด เค้าคงตื่นเต้นมาก ก็แน่นอนละครับ ตอนช่วงหยุดโควิด อยู่บ้านฟัง podcast กันตลอดเวลา ตอนนี้ระหว่างที่ผมกำลังได้รับโจทย์เขียน ชายกลางคงกำลังมุดไปตามชั้นหนังสือที่อยู่ในห้องเวิร์คช็อป เค้าคอยหยิบหนังสือที่ผมก็เคยซื้อไปอ่าน ไม่ก็เล่มที่คิดว่าผมน่าจะสนใจเอามาดบกให้ผมดู นี่ผมก็เริ่มสงสัยนิดหน่อยว่าสุดท้ายแล้วมีแค่ผมเองรึเปล่าที่เห็นชายกลางนะครับเนี่ย มีเล่ม A Little Life อันนี้ผมมี แต่อ่านไปแค่นิดหน่อย แล้วก็เล่ม Bob Dylan อันนี้กลางคงรู้ว่าผมกำลังสนใจศิลปินคนนี้อยู่ ตอนอยู่อังกฤษจำได้ที่ Sheng Ye เคยพูดถึงด้วย พี่ทองแอบแก้หลายทีแล้วนะครับ อ้าวเห้ย หญิงเล็กก็แอบโทรจิตมาหาผมด้วย อย่างว่านะ่ะนะครับ น้องต้นไม้สองต้นนี้ดูจะชอบงานเขียนกันทั้งคู่ “เล็กมาเพราะว่าชื่อคอร์สคือการเชื่อในตัวเอง เป็นิส่งที่เล็กก็เห็นความสำคัญมาคะพี่ทอง” อ่อ เข้าใจแล้วครับเล็ก ชายกลางดูจะมีความสุขมาก เดิน เขย่ง ก้าวกระโดดจากชั้นนี้ไปชั้นโน้นที ผมกวาดตามองไปเรื่อยดูว่าน้องจะแอบตรงหนังสือเล่มไหนตอนนี้ The missing one ไม่มี

ลิสต์สิ่งที่มีความสุข ยากมากที่จะไม่คิด

เขียนที่ Readery ในห้องเวิร์คช็อป

สิ่งที่ทำให้มีความสุขคือ

  • การเขียน

  • การได้ระบาย

  • อาหารอร่อย

  • แกงกะหรี่

  • ญี่ปุ่น

  • ดิสนีย์แลนด์

  • รอยยิ้มพ่อกับแม่ ท้งครอบครัวเลย

  • ไม้หัว

  • ตอนที่เราไม่เครียด

  • อิสระ

  • เพื่อนๆสาธิต

  • ความไร้เดียงสา

  • ความไม่คิดมาก

  • เสื้อผ้าสวยๆ

  • การเรียนรู้

  • ภาษาญี่ปุ่น

  • เปียโน

  • กีตาร์

  • ร้องเพลง

  • คาราโอเกะ

  • ของทอด

  • ลูกชิ้นทอด

  • หมูปิ้ง

  • ฮะจิบัง

  • สวนสาธารณะ

  • อากาศเย็นๆ

  • ความซื่อสัตย์ การได้เป็นตัวของตัวเองเต็มที่

  • ความสบายใจ

  • ความสงบ

  • การได้ช้อปปิ้ง

  • การได้ใช้เงินโดยไม่ต้องกังวลอะไร

  • มื้อเย็นกับครอบครัว

  • เอ็มเค

  • เพลงญี่ปุ่นเก่าๆ

  • พี่พัด

  • ลิซ่า

  • จินตนาการของเรา

  • แย่ละนึกไม่ออก

  • ทำไงดี ว้ากๆๆๆๆๆๆๆ

  • การได้ระบาย

  • การได้ทำความดี

  • การได้ช่วยคนอื่น

  • เวลาที่ปล่อยวางได้

  • เวลาที่จิตใจไม่เกิด conflict

  • เวลาที่คิดว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด

  • หนังสือธรรมะ

  • คำให้กำลังใจ

  • หนังสือข้อคิดต่างๆ

  • การได้ดูหนังเงียบๆ

exercise 3

ฉันเห็น

หนังหว่องกาไว

เลสลี่จาง

happy together

ผู้หญิงชุดสีฟ้าและน้ำเงินลายดอกไม้กระโปงสั้นมากเลยเข่าขึ้นมา ใส่ส้นสูงสีดำ ผิมวีแทน มีมวยผม

กำลังเต้นกับผู้ชายหัวเถิกหน่อยใส่แว่นสำดำหน้าตาดูไม่ค่อยอินกับการเต้นเท่าไหร่ เสื้อแขนกุดคล้ายๆเสื้อบอลค่อนข้างรัดรูปเห็นพุงมีเหมือนป้ายโลโก้สีขาว กางเกงเหมือนจะเป็นผ้ายีนสต์สีขาว ใส่รองเท้า casual สีดำ

เห็นห้องที่มีผนังสีฟ้า ออกไปทางผิวของตัวละครจากอวตาร แต่ออกฟ้ากว่า ไม่สิ คล้ายๆสีของ aayla secura ตัวละครเจไดชาวทวิเล็กที่เราชอบจากสตาร์วอรส์ เห็นบ้านประตูกับบ้านหน้าต่างเท่ห์มากนึกถึง harry potter แล้วก็นึกถึงพิพิธภํณท์ที่นิวยอร์กด้วย ที่เป็นเหมือน balcony โผล่มาจากชั้นสอง เห็นแสงไฟสีส้มสวยมาก สีเหมือนกับลาวาร้อน มีผู้หญิงใส่กระโปงมีระบายมีจีบสีชมพูแปร๋น เหมือนกำลังคุยหรือรอใครสันคนอยู่ เห็นพัดลม เหมือนจะไม่ได้ทำงาน ดูไม่น่าจะช่วยให้หายร้อนเสียเท่าไหร่ เห็นแสงไฟสาดเข้ามาที่ผนัง ที่โปสเตรอร์ ที่เป็นภาพผู้หญิงที่ทำให้นึกถึงซัลม่าฮาแยค มีเหมือนดอกไม้สีแดงติดคาดที่หู แสงสาดแล้วทำให้ดูขลัง นึกไปถึงห้องตัวเองเวลาห้าโมง เห็นคนดูนั่งดูนักเต้นกันอย่างตั้งใจ เห็นผู้ชายใส่กางเกงสีเหลืองดูชิลมาก อาจจะเป็นเพื่อนกับคนที่เต้นอยู่รึเปล่า

exercise 4 เขียนเป็นบทสนทนาของเรา กับตัวเราเองในอดีตละกัน อย่าหยุด อย่าคิด specific

ทองตอนนี้ ว่าไงทองอายุ 15 นายอายุอ่อนกว่าเราตอนนี้ประมาณครึ่งนึงพอดี วันนี้เราจะต้องมาคุยกับนายให้อย่า...

ทองอายุ 15 ว่าไงทองอายุ 31 ไม่น่าเชื่อว่านายจะไว้หนวดไว้เครามากมายขนาดนี้

ทองตอนนี้ เอาล่ะเรามาเข้าเรื่อง เราจะบอกให้นายอย่าคิดมากละกัน เพราะเวลาที่นายเสียไปกับการคิดเนี่ยนะ เราว่าเอามันมารวมกันอาจจะได้ระยะเวลาเป็นปีๆเลยทีเดียว

ทองอายุ 15 จริงเหรอ มันจะต้องคิดอะไรมากมาย แต่ก็อาจจะจริงนะ นี่แค่ช่วงนี้ อยู่มปลาย ก็ต้องไปเรียนพิเศษตั้งหลายที่

ทองตอนนี้ นั่นไง นายเริ่มมีเรื่องอะไรต้องคิดหลายเรื่องแล้ว เราอยากบอกนานยด้วยว่า หลายๆส่ิงที่นายคิดเนี่ยนะ ลงเอยแล้ว มันก็จะไม่ได้ว่าจะเหมือนสิ่งที่คิดไว้ตลอดร้อยเปอร์เซนต์หรอก

ทองอายุ 15 จริงเหรอ

ทองตอนนี้ ใช่ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับความคิดของคนอื่นเนี่ย ถ้านายทำได้นะ เลิกคิดไปได้เลย นายไม่มีทางรู้เลยว่าตอนนี้ใครจะคิดอะไรกับนายยังไง แล้วที่สำคัญ

ทองอายุ 15 อะไรอ่ะๆๆๆๆ

ทองตอนนี้ ถึงนายรู้ไป นายก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ดังนั้น ปล่อยวางซะเถอะนะ แล้วก็อย่าลืมมองสิ่งที่ตัวเองมีเยอะๆ

ทองอายุ 15 ทำหน้าฉงน

ทองตอนนี้ นายไม่ต้องคิดอะไรมากเลย นายแค่มอง ตอนนี้นายมีเพื่อน มีโรงเรียน มีอาจารย์ที่น่ารัก มีครอบครัวอยู่ด้วยกันพร้อม มีธุรกิจครอบครัว นายโชคดีมากนะ นายอย่าละเลยสิ่งเหล่านี้

exercise 5 เขียนโฆษณาหาคู่ในแอพฯ หรือ เขียนสเปคคนรักในฝัน หรือ เขียนจดหมายงานศพ ห้านาที

ยากจัง สวัสดีครับทุกคนในงานศพผม ผมหวังว่าทุกคนจะเดินทางมางานผมได้อย่างไม่ลำบาก ก่อนอื่นต้องขอบพระคุณทุกๆคนมากเลยนะครับที่สละเวลามางานผม ผมรู้ว่าผมก็ไม่ใช่คนที่จะสุงสิงหรือเข้าสังคมอะไรมากมายเท่าไหร่ เรื่องของความสัมพันธ์ก็เหมือนจะไม่ค่อยได้เรื่อง ผมอยากบอกทุกคนว่า ขออโหสิกรรมให้กับผมด้วย กับสิ่งที่ผมทำผิดพลาดไป ทั้งตั้งใจหรือไม่ต้งใจก็ตาม ผมหวังว่าผมจะไม่ตกนรก ผมกลัวมาที่สุดเลยล่ะเรื่องนี้ ถ้าผมจะต้องบอกความลับกัลทุกๆคน พี่พัด กับลิซ่า ดูจะรู้เรื่องนี้ดีที่สุด จริงๆแล้วเรื่องบุญบาปเป็นอะไรที่เข้ามาวกวนอยู่ในชีวิตผมเกือบจะตลอดเวลา ทำให้ผมค่อนข้างจะขยับตัวทำอะไรได้ไม่อิสระนัก หลายคนก็อาจจะบอกอยู่ว่ามันเป็นเรื่องของอนาคต รู้ไปก็เท่านั้น แต่ไม่รู้สิครับ หรือชีวิตผมจะสบายเกินไป ไม่มีอะไรให้คิดจนต้องมาห่วงแต่เรื่องชีวิตหน้า นี่ผมเริ่มใจสั่นขึ้นมานิดหน่อย พอได้เริ่มแตะประเด็นที่ติดค้างในใจผมมากที่สุด ผมหวังว่าจะพูดออกมาได้ทุกเรื่อง แต่ผมก็กังวลว่าสิ่งที่พูดจะไปทำร้ายคนอื่นๆอีกหรอืไม่ เอาว่า ผมก็พยายามเต็มที่ที่จะเป็นคนดีน่ะนะครับ ไม่รู้แบบนี้เค้าเรียกติดีหรือดีหรือเปล่า จริงๆก็เหมือนรู้อยู่ด้ยนะครับว่า ติดกับอะไรมากๆ สิ่งนั้นมันก็อาจจะทำให้เราเป็นทุกข์ได้เหมือนกัน ยากจังเลยครับ การจะเป็นคนดีแต่ว่าก็ไม่ทำให้ตัวเองต้องทุกข์ใจด้วย แย่แล้ว โดนเตือนว่าห้ามคิด

exercise 6 ฟังเพลงที่เคยฟัง วนๆๆๆไปน่ะ

ฉันจำได้ว่า i remember

ผมจำได้ว่า เคยชอบเพลงนี้มากๆ ฟังแล้วก็นึกถึงแย้ ตอนนี้แย้อยู่ไหนแล้ว เราเคยร้องเพลงนี้ด้วยกันจำได้รึเปล่า จริงๆเราก็ไม่ได้เริ่มฟังเพลงนี้กับแย้นะถ้าจำไม่ผิด แต่จำได้ว่าเพราะเราเปิดเพลงนี้บ่อยๆในรถ เราชอบร้องเพลงนี้มาก ไม่รู้ทำไม อาจจะเพราะเอ็มวีมันเศร้าดี เราเสพย์ติดความเศร้ามาตั้งแต่เด็กจริงๆ แต่ก็ยังนึกถึงแย้ เวลาที่ฟังเพลงนี้ ยิ่งตอนนี้แย้ไม่อยู่กับเราแล้ว เราจำได้ว่าเคยเปิดเพลงนี้ตอนซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปงานศพแย้ ดราม่าเนอะ จำได้ว่าน้ำตาไหล เหมือนในหนังเลย เราจะเจอใครแบบแย้อีก มีไม่กี่คนหรอกที่จะติงต๊องกับเราได้มากเท่าแย้ จริงๆเราต้องเรียกว่าคุณสิ คุณจากเราเร็วไปหน่อยนะ จะมีใครมาโยนหมอนเป็ดกับเราอีก จะมีใครมาเอาดินสอจิ้มเข่าเราอีก จะมีใครมาโกยของบนโต๊ะลงถุงกระดาษกับเราอีก มีแต่คุณเท่านั้น เห้อ ร้องไห้อีกจนได้ เราขอให้คุณไปเกิดใหม่อย่างมีความสุขนะ ไม่ต้องห่วงอะไร เราเจอพี่โน้ตบ่อยมากที่เซ็นทรัล พี่เค้าดูร่าเริงเสมอ เห็นแล้วก็นึกถึงคุณตลอด รักแย้มาก ไว้เรามาเจอกันใหม่อีกชาติไหน มาเล่นกันอีก ครั้งหน้าเราหวังว่าเราจะได้ไปเรียนอังกฤษพร้อมกับคุณ เราจะได้ช่วยดูแลคุณได้บ้าง หลับให้สบาย เราไม่เคยลืมคุณเลย ไว้ธันวานี้จะหาโอกาสไปทำบุญให้อีกนะ แย้เป็นคนน่ารัก สดใส ใครๆก็ต้องรัก

แก้ไขดูน่ะ เอาสิ่งไม่จริงออก หรือแก้

ผมจำได้ว่า เคยชอบเพลงนี้มากๆ ฟังแล้วก็นึกถึงแย้ ตอนนี้แย้อยู่ไหนแล้ว เราเคยร้องเพลงนี้ด้วยกันจำได้รึเปล่า จริงๆเราก็ไม่ได้เริ่มฟังเพลงนี้กับแย้นะถ้าจำไม่ผิด แต่จำได้ว่าเพราะเราเปิดเพลงนี้บ่อยๆในรถ เราชอบร้องเพลงนี้มาก ไม่รู้ทำไม อาจจะเพราะเอ็มวีมันเศร้าดี เราเสพย์ติดความเศร้ามาตั้งแต่เด็กจริงๆ แต่ก็ยังนึกถึงแย้ เวลาที่ฟังเพลงนี้ ยิ่งตอนนี้แย้ไม่อยู่กับเราแล้ว เราจำได้ว่าเคยเปิดเพลงนี้ตอนซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปงานศพแย้ ดราม่าเนอะ จำได้ว่าน้ำตาไหล เหมือนในหนังเลย เราจะเจอใครแบบแย้อีก มีไม่กี่คนหรอกที่จะติงต๊องกับเราได้มากเท่าแย้ จริงๆเราต้องเรียกว่าคุณสิ คุณจากเราเร็วไปหน่อยนะ จะมีใครมาโยนหมอนเป็ดกับเราอีก จะมีใครมาเอาดินสอจิ้มเข่าเราอีก จะมีใครมาโกยของบนโต๊ะลงถุงกระดาษกับเราอีก มีแต่คุณเท่านั้น เห้อ ร้องไห้อีกจนได้ เราขอให้คุณไปเกิดใหม่อย่างมีความสุขนะ ไม่ต้องห่วงอะไร เราเจอพี่โน้ตบ่อยมากที่เซ็นทรัล พี่เค้าดูร่าเริงเสมอ เห็นแล้วก็นึกถึงคุณตลอด รักแย้มาก ไว้เรามาเจอกันใหม่อีกชาติไหน มาเล่นกันอีก ครั้งหน้าเราหวังว่าเราจะได้ไปเรียนอังกฤษพร้อมกับคุณ (เราจะได้ช่วยดูแลคุณได้บ้าง) เราจะได้อยู่เป็นเพื่อนคุณบ้าง หลับให้สบาย เราไม่เคยลืมคุณเลย ไว้ธันวานี้จะหาโอกาสไปทำบุญให้อีกนะ แย้เป็นคนน่ารัก สดใส ใครๆก็ต้องรัก

IMG_5052.jpeg
Previous
Previous

ก่อนอื่น แค่ดีดแล้วก็ร้อง

Next
Next

พลังงานก็ไม่แน่นอน