Week 2 | Day 4 of 7 | 18 days left
8:26am ตอนแรกเริ่มเขียน cue card ทีนี้ก็งงตัวเองว่ากำลังทำให้ขั้นตอนยุ่งยากขึ้นหรือว่าช่วยให้ตัวเองทำงานเป็นระบบขึ้นกันแน่ ควรจะอ่าน e-book ต่อหรือว่าควรจะย้อนกลับไปทำสิ่งที่ค้างไว้ในแบบตัวเองให้จบน่ะ โอ้ยงง จริงๆเคยเขียนเรื่องเกือบจบตั้งแต่ตอนเรียนกับ Seth Fried ตอนนั้นแค่งงกับคำว่า stake หน่อยแล้วก็เลยไปหาอ่าน pixar in a box คือจริงๆย้อนกลับไปเขียนตรงนั้นให้จบ แล้วก็มาดู e-book ภาพรวมว่าต้องทำขั้นไหนต่อเช่น storyboard แล้วก็ทำมันให้จบไปก่อน ภายใน 18 วัน ดีกว่าไหม คือ ต้องการจะบอกว่า อย่าลืมว่าเราก็อาจจะมี process หรือเป้าหมายของเราอยู่แล้ว ที่ถ้าเราไม่ adapt เอาสิ่งที่อ่านมาใช้กับความต้องการตัวเอง มันก็จะกลายเป็นยิ่งอ้อมเรื่องอ้อมราวหรือไม่น่ะ ลองกลับไปดูสิ่งที่เขียนออกมา แล้วดึงแค่ส่วนที่ทำให้โปรเจคเดินหน้าไปจนจบได้จาก e-book มาใช้ซะน่ะ หมดเวลาละเช้านี้
22:01 เขียน cue cards เพิ่ม งงชะมัด เพราะอ่านหลายตำรา เห้อ เหมือนจะยังติดตรง obstacles and stakes ว่ามันทำงานยังไง ตอนนี้อุปสรรคจะเกี่ยวกับเรื่องเวลาจากพี่น้องพี่หญิงใหญ่ ต้องเสียสละ แล้วสุดท้ายเธอจะได้เรียนรู้ว่า เธอไม่จำเป็นต้องเป็นที่โด่งดังในโลกโซเชียล แค่เธอมั่นใจในตัวเอง มีความสุข พอใจในสิ่งที่เธอมี ในไลค์จากพี่น้อง มนไลค์จากตัวเอง (สำคัญที่สุด) นั่นคือตอนแรกเธอเห็นไลค์ของพี่น้องก็ดีใจแล้ว ไม่สิ เธออาจจะไม่เห็นค่าตรงนั้นด้วย ตอนแรกเหมือนดีใจ แต่จริงๆก็ไม่ คือตายใจเพราะติดว่าคนใกล้ตัวไง (ทำให้ได้เรียนรู้ว่าอย่าไปเรียกร้องความรักการยอมรับจากใคร ให้เริ่มจากตัวเอง) จนเมื่อเธอหลุดจากไลค์พวกนี้ต่างหาก ถึงไม่มีใครไลน์เลย เธอก็สุขได้ สุดท้ายไปเปิดแอคเค้าไพรเวทลงร้องเองมีความสุข แล้วชบาก็บานอีกครั้ง ใช่! เย้!!!!! บางคลิปก็น้อง บางคลิปก็เต้น อะไรแบบนี้น่ะ ร้องประกวดแข่งโซเชียล ร้องชบาบาน ตอนแรกเธอคิดว่าชบาบานเพราะเธอร้องแบ้วคนฟังชอบ แต่จริงๆชบาบานเพราะเธอมีความสุขต่างหาก จากการไม่ต้องสนใจว่าใครจะชอบ แค่ทำเพราะรักที่จะทำ แค่เป็าตัวเอง มั่นใจในตัวเอง พอใจในตัวเอง เห็นคุณค่าตัวเอง ร้องเพื่อแข่งกับคุณพี่ยี่หร่า ดูมีหลาบประเด็นไปไหมนะ)