วันที่ 3 ของแผน ห้ามเปลี่ยน! ถึงวันที่ 15 jan ‘23!!! ทำแผนให้ครบต่อวัน แล้วมีเวลาก็ทำไม้หัวโชว์ หลักๆเท่านี้
วันที่สามของแผน gesture = acting ทำแผนให้เสร็จก่อน มีเวลาค่อยทำไม้หัวโชว์ ไปสวนสัตว์ หาแบบที่เน้นการแสดง อย่าง bodies in motion ไปๆมาๆ ถึงจะดูมีความเคลื่อนไหว แต่เราไม่เห็นการแสดง ส่วน gesture drawing party ก็โอเค ดูมีปนๆกัน มีส่วนที่เป็นนายแบบ มาเหมือนจะแสดงเป็นเรื่องราวด้วย ซึ่งหลายทีดูอารมณ์ไม่ค่อยออก ก็ดีแล้ว จะได้เป็นโอกาสให้เราฝึก PUSH!
มีเวลาก็ต้องไปดู Nick Sung’s Drawing Demo ตอนนี้คิดว่าทิศทาง Gesture Drawing ต้องถามตัวเองใหม่น่ะ ว่าจะเอายังไงต่อไป คิดว่าไม่ได้อยากเน้น anatomy อันนั้นคนละเซสชั่นแยก แต่ว่าอยากเน้นการ push pose, clarity อะไรแบบนั้นมากกว่า นี่เลยไปเปิดดู anim drawing tips from Toniko ดูด้วยตะกี้นี้ ออ ตอนนี้ 7:15am
พรุ่งนี้ลองใหม่ เน้น gesture drawing as acting drawing
คิดถึงคำสรุปของ nick, ‘PERFORMANCE / CLARITY / CARICATURE (exaggerate แหล่ะ)’
tell stories with human figure ‘body language’ - walt stanchfield
ศึกษา hands, feet, faces แยกด้วย - toniko
ใส่ส่วนของการ apply จาก gesture drawing to your needs เลยคือ วาดพี่งอทกับไม้หัว ลงไปเลย
เลิก COPY! แต่ให้หา SPIRIT OF THE POSE AND DRAW THAT - walt stanchfield
ป.ล. อย่างนึงที่เราได้คือ สุดท้าย คนสอนเต็มไปหมด เราต้องฟังเสียงตัวเองด้วยอีกครึ่งนึง คือเปิดรับการสอน ฝึกได้ แต่ต้องไม่ลืมเสียงตัวเองด้วย ไม่งั้นจะกลายเป็นฝึกไปไม่มีวันจบ ไม่ creator something as an artist สักที เช่นกัน เราไม่ได้จะเป็น draftman เฉยๆ เราต้องการสร้างงานของตัวเอง สุดท้ายแล้ว SHOW CREATOR!!!
7:34 am เหลืออีกประมาณ 8 นาทีมั้งนะ เอาว่า เอ้อ อย่าลืมไปศึกษาแบบ การวาดคนของ we bare bears ด้วยเป็นต้นน่ะ
อันนี้เป็นเลคเชอร์จาก Toniko เราเข้าไปเปิดดู drawing skills for animators (ไม่ใช่ story artists นะ ต้องแยกดีๆ)
เมื่อวานขาดไปคือ gesture drawing reading from walt เลยอ่านเช้านี้ไปนิดหน่อย ส่วน figure drawing ไม่แน่ใจว่าทำไปได้ชั่วโมงไหม อาจจะเกือบชั่วโมง เพราะว่าง่วงมาก ได้ทบทวนเรื่อง body landmarks
อันนี้เป็นคาเฟ่สเก็ตช์ครับ ทำไปคิดไปลังเลไป แต่ก็เอาตัวไปวาดจนได้ ที่เดิมๆเนี่ยแหล่ะ เพื่อจะได้ค้นพบอะไรใหม่ๆ วันนี้อาจจะไปลองสเก๊ตช์แค่มือ หน้า อะไรแบบนี้ก็น่าสนใจนะ หรือว่าเน้นที่คน สลับไป คน ฉาก คน ฉาก
อันนี้เป็นงานช่วงทำไม้หัวอนิเมชั่นครับ ตอนแรกจะทำสวนในฝัน ไปๆมาๆ จะไปทำคุณพ่อเบาบับ ไปๆมาๆ คิดว่าไม่อ่ะ ต้องปัจจุบันทันด่วนกว่านั้น คือยอมปล่อยครับ ตอนนี้มาทำไม้หัวโชว์ ของ 5 ไม้หัว 1 พี่งอท กับ 2136 คันจิเลยดีกว่า (วันนี้ตื่นเต้นมากจะได้วาดห้องพี่งอทแล้ว ทีนี้ก็เล่าเต็มที่ได้เลย เพราะไม่มีความจริงมาเหนี่ยวรั้งเราไว้เลย หมายถึง จะเป็นโลกที่เป็นอิสระะะะะะ จากห้องนอนพี่ทองครับ เพราะว่าพี่งอทเค้าอยู่คนเดียว เค้าจะทำอะไรก็ได้ พาไม้หัวไปไหนก็ได้ โลกใหม่ คนใหม่ เรื่องใหม่ ได้หมดเลย!!!)
พี่งอทจะพาไม้หัวไปหาอิสระที่แท้จริง!!!
อ่าเค โทษทีครับ ตื่นเต้นไปหน่อย เมื่อวานผมเริ่มจากสุ่มคำคันจิได้ตัวอักษรนี้ครับ 枠 วะคุ แล้วก็ไปเจอกับคำว่า 枠内 ที่แปลว่าภายใต้ขอบเขต ผมก็เลยนึกถึงเรื่องราวของพี่งอทกับไม้หัวประมาณนี้ครับ แน่นอนผมก็ต้อง ฟรีไรต์ลงมาก่อนแล้วก็แก้ประมาณ 2−3 ทีเล็กน้ยอ จับเวลาตอนแรกสุดก็ 5 mins ไม่ให้คิดมากไปครับ
อีกสองเรื่องครับ เกือบจบละ มีคอมโพสตัด ได้สตัดจาก alice in borderland สมใจครับ
แล้วก็สุดท้าย งานช่วงพอร์ตตอนเช้า ผมเอาเบสิค โทนิโกะมาเรียนให้หมดๆครับ เค้าสอนเรื่องการเหวี่ยงค้อนครับ มีเวลาเหลือเลยไปหยิบ richard williams มาอ่านเกี่ยวกับเรื่อง on 1’s and on 2’s นิดหน่อยด้วย (ถ้า action ทั่วไปก็ on 2’s ถ้าแอคชั่นไวๆ เช่นการวิ่ง ก็ on 1’s ถ้าเดินให้ฟังก์ชันได้ก็ on 2’s แต่ on 1’s จะสวยกว่า เหมือน Richard จะชอบ on 1’s มากกว่า ใจความผมว่าก็ ง่ายๆว่า ถ้ามีเวลา มีพลังงาน on 1’s ก็แจ่มกว่า ประมาณนั้นมั้งครับ)
ใจความของแบบฝึกนี้คือ ให้ inbetween with context ครับ แล้วก็เรื่อง arcs แล้วก็เรื่อง overshoot and weight คือให้ค้อนมันยุบเลยไปอีกค่อยเด้งกลับมาเพื่อให้เกิดความรู้สึกถึงน้ำหนักมากขึ้น แล้วก็อินบีโดยดูเรื่องราว ไม่ใช่สักแต่ว่าอินบี ตะปูจะยังไม่ถูกกดลงที่เฟรมตรงกลาง เพราะว่าค้อนยังเหวี่ยงมาไม่ถึง ประมาณนี้ครับใช่
นี่เอามาให้ดูสองแบบครับ แบบซ้ายคือตอนที่ยังไม่ได้ใส่ weight ครับ ก็อย่าลืมเทคนิกเหล่านี้ครับ overshoot, squash and stretch
ป.ล. สอง มาบอกว่าผมมั่นใจในตัวเองขึ้นแล้วนะตอนนี้ก็คือ ผมจะใช้ชีวิตแบบนี้ตอนนี้แหล่ะ คือทำพอร์ต cd/anmt ทำโชว์ไม้หัวไปด้วย แล้วก็เรียน สตอรี่บอดไปด้วยสามอย่างหลักครับ แล้วก็ เช้านี้เกือบถาม chad ว่าแบบ ผมจะวาด figure drawing ยังไงดี ถ้าสนใจทั้ง animating and storyboarding ทีนี้ก็ลบออกเพราะคิดว่า ถามไปทำไม เราก็ยังต้องลองทำเองอยู่ดี ก็เลยไม่ถามครับ
ป.ล. สาม การเขียน reflect บล็อก เพื่อให้เราได้แปลงสิ่งที่เรียนรู้ ที่ฟัง แล้วเอามาพูด output ออกมาเป็นคำของเราครับ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าเรียนครบลูป เพราะจนกว่าที่เราจะอธิบายเป็นคำของเราในสิ่งที่ได้เห็นฟังมาได้ สิ่งนั้จะยังไม่เป็นของเราครับ ใช่ มันเจ๋งตรงนี้การ blog to reflect and make words you heard to become your own