เริ่มคิดถึงพื้น คร่าวไปละเอียด ส่งอัพเดท short film คลาสวันอาทิตย์ ทำไปทีละ stage ตลอดเฟรมทั้งหมด
6:47am เริ่มจากสรุปไว้ที่หัวเลยครับ บทเรียน ความคิด ที่ตกตะกอนได้จากเช้านี้ตอนวอร์มมือวาดรูปคนสองคนวันนี้ วันเริ่มด้วยการบล็อกก่อนเลย แล้วก็เดี๋ยวไปอัพเดทรททบต่อน่ะ แรงมันจำเป็นกว่าตรงนี้ ยังไม่โปรโมตไอจี ตรงนั้นไว้หลังสุด เพราะว่ากินแรงมากสุดน่ะ ไม่งั้นเสร็จ งั้นสรุปนะ
วอร์มก่อน แล้วก็บล็อก แล้วก็รททบ แล้วก็โปรโมตงานไอจีและโซเชียลต่างๆ
เมื่อวานก็ทำงานได้น้อย เพราะว่ามีภารกิจหน้าที่ลูก ไปเป็นเพื่อนแม่ไปโรงพยาบาล คิดเสียว่าเรามีเวลาที่ยืดหยุ่นได้เราเลยปรับได้ตามสถานการณ์ครับ แล้วก็ไปเยี่ยมคุณย่าผม แล้วก็ไปซื้อไม้บรรทัดเอาไปวัดแผลให้คุณย่า พยาบาลขอให้ช่วยมาหน่อย แล้วก็เลยเลยไปซ่อมสายกีตาร์ด้วยครับ เล่าแล้วเหมือนผมเป็นคนดี๊ดีนะ อย่าหลงเชื่อนะครับ เรื่องไม่ดีผมก็ไม่เล่าหรอก มันก็น่าอายสิจริงไหม เอาว่าเช้านี้อ่านเล่ม directing story ของ Francis Glebas ชอบมากเหมือนกัน เค้าเริ่ม intro เรื่องมนต์ของการเล่าเรื่อง ทำเอาผมอยากอ่านต่อแล้วเนี่ย บอกว่า storyteller is a transformer of life โหย ชอบเลยอ่ะครับ ทำให้ตัวเองยิ่งอยากจะอ่าน แล้วก็ลุยต่อกับการเล่าเรื่อง การวาดสตอรี่บอร์ด ก็เป็นจังหวะประจวบพอดีกับที่ตอนนี้กลับมาลงคลาสที่ Project City ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เอื้อให้ผู้ใช้ทำอนิเมชั่นโปรเจคส่วนตัวครับ ผมจะได้เข้าคลาสกับ โทนิโกะด้วย อาจารย์ที่ผมชื่นชอบจากการเจอที่ยูทูบ เค้าสอนอนิเมตด้วย เหมือนเรียนที่ CalArts ด้วยครับ ตอนนี้ทำตัวเหมือนเป็นนักเรียนแคลอาร์ตเนี่ยแหล่ะ เริ่มจากทำคาชีท ทำสติกเกอร์สี่สาวให้จบก่อน เนี่ยแหล่ะ
ออ วันนี้ก็จะใช้หลักการ คร่าวไปละเอียดครับ เมื่อวานผมวาดหญิงเล้กออกมาก่อนแล้ว ในชุดกระต่ายเป็นการสเก๊ตช์ภาพใหญ่ให้เห็นก่อน เดี๋ยววันนี้จะสเก๊ตอีกสามสาวออกมาก่อนเลย เปิดภาพกระต่ายไปด้วย เราว่าสนุกดี การได้เห็นภาพคร่าวๆก่อน ทางจิตวิทยามันน่ากลัวน้อยกว่าด้วยรู้สึกว่าจะจบได้ ทำให้ตัวเองมีกำลังใจ ประมาณนั้นมั้งครับ อ้อ แล้วเพิ่งคิดได้ตะกี้เลยว่า ครั้งนี้ พอวาดคร่าวๆสี่สาวเสร็จ กลับมาที่หญิงเล้ก ผมว่าผมจะไม่วาดให้ถึงลงสีจบทีละเฟรม สามสิบนาทีแล้ว ครั้งนี้เราลองทำไปเป็นสเตจๆ ดีกว่าคือ วาดคร่าวๆให้ครบสี่ถึงห้าเฟรมก่อน (ลิมิตไว้แค่นั้นพอ เดี๋ยวไม่ทันส่งนะ ต้องพยายามส่งคืนนี้ให้ได้) แล้วค่อยไปเกลาลงให้เส้นชัดขึ้น แล้วก็วนไปห้าเฟรม แล้วก็วนกลับมาใหม่ ลงสี ก็ลงยกชุดลองดูวิธีนี้ อืมๆๆ น่าสนใจ (เหมือนที่เราจะเอาไปใช้กับอนิเมะตอนสอง พ่อเบาบับด้วย ก็คิดว่ากะจะลงคีย์เฟรมให้ครบตลอดเรื่องก่อน ค่อยไปลง inbetween แค่บางซีนแบบนั้น อยากลองดูว่าจะเป็นยังไง ‘รู้สึก’ ยังไงตอนทำน่ะครับ ต้องลองของแบบนี้
เช้านี้วอร์มได้ประมาณนี้ พอเจอคนสอคนเลย force ให้ผมต้องคิดจากคร่าวไปละเอียด เปิดเลเยอร์ทับก่อน จะทำไม เราไม่จำเป็นต้อง force ตัวเองให้ครั้งเดียวได้เสียหน่อย ถ้าสุดท้ายได้งานเหมือนกัน ไปในแบบที่เราโอเค วันนี้ ตอนนี้ ก่อนดีกว่า มันต้องให้เกิดการเรียนรู้เอง เช่นเรื่องการวาดเส้นให้เคลียร์ เราก็เริ่มๆจะเข้าใจ ออ ถ้ายุ่ง แล้วมันก็จะวาดไปต่อลำบาก อะไรแบบนี้ เอาว่า ทฤษฎีครึ่ง ปฏิบัติครึ่ง อย่า fixed-minded น่ะ ต้องปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ต้องรู้จักปรับเปลี่ยนตามข้อมูลใหม่ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
โอเค พูดมาเยอะแล้ว นี่งานวอร์ม เริ่มคิดถึงพื้น perspective อีกทีด้วย พอมีหลายๆ objects แล้วก็นั่นแหล่ะครับ เรื่องนี้คงต้องไปดู james, pct เอา ใจเย็นๆ กับ perspective มีเวลาค่อยไปหยิบตำรา หรือว่า cgma คอร์สเก่ามาเปิดดู ฝึกตาม เอาที่ “จำเป็น” ก่อน ตอนนี้เน้น วาดคน อนิเมต สตอรีบอร์ดก่อน ปปทีฟก็คงเหมือนการวาดคนแหล่ะมันก็พื้นฐานที่ต้องใช้ไปด้วยกัน เราก็ใช้วิธีเรียนรู้จากการทำงานจริงไปเลย แล้วก็เปิดตำราทฤษฎีไปด้วยน่ะ ออเมื่อวานเริ่มหญิงเล้กคร่าวๆแล้วด้วยะครับ ชิ้นที่ห้าสติกเกอร์
12:46pm ฟินมากกกกก กับวิธีการใหม่ นี่ไง ทำ rough animation ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยตัดเส้นน่ะงิ ดีมากน่ะ สำหรับหญิงเล้ก แล้วก็พอดีวันนี้ต้องเสร็จสี่ชิ้น ก็ทำการสเก๊ตช์คร่าวๆ หาไอเดีย (อี้ว ไม่ชอบคำว่าไอเดีย หาเรื่องราวต่างหาก ของเหล่าสี่สาวกับตีมชุดกระต่าย) ออกมาได้ประมาณนี้ครับ ผมว่าดีนะทำแบบนี้ เหมือนมันแบบ ทำให้หัวเราค่อยๆเริ่มจากการฟุ้ง แล้วตกตะกอนรูปร่างขึ้นมาอ่ะ ผมว่ามันเป็นกระบวนการที่ดีมากอ่ะ เริ่มจากยุ่งๆแล้วค่อยปั้นให้เป็นระเบียบ เกลาออกน่ะครับ