โฟกัสที่ Story Artist / Storyboarding / Storytelling!

11:15am ประมาณนี้ครับ ตามหัวข้อ เช้านี้คิดเรื่องประมาณนี้เป็นหลัก คิดว่าแผนเราจะเอาไว้ต่อวันนี้เป็นวันที่สองครับ สำหรับคาเลนเดอร์ ยังไปต่อได้อยู่ ตอนแรกฟังเลอเชอร์จาก Nick Sung แล้วก็ตื่นเต้น อยากไปจะไปโฟกัสแค่แบบ storyboarding, walt stanchfield, project city, pixar in a box, pixar’s storytelling เริ่มงงไปหมด เอาว่ากลับมาทำตามแผนเราก่อนดีกว่า สามสิบนาทีนี้เป็นการรีเฟล็กสิ่งที่ทำไปเมื่อวานแล้วก็จะทำต่อวันนี้ครับ โอเคนะ มีแค่ว่าคิดว่าจะศึกษาแต่ we bare bears ก่อนครับใช่ด้วย เอาเรื่องอื่นออกก่อน (แล้วก็ตอนนี้ผมโอเคมากกับทิศทางการจะเป็น story artist for shows like We Bare Bears, Gumball, We Baby Bears on cartoon network มันดูง่าย สั้น สนุก ครีเอทีฟ จบได้ ดี ประมาณนั้น ก็ต้องทำไม้หัวอนิเมชั่นให้เสร็จ ไม่ก็ทำไปเรื่อยๆเนี่ยแหล่ะ จะได้เข้าใจตัวเองครับ โอเคๆๆๆ เริ่มพูดไม่รู้เรื่อง พอก่อน มาลงงานเช้านี้ เมื่อวาน คุยงานวันนี้กันต่อเถอะ)

ไล่จากเมื่อวานก่อน ชั่วโมงคอมโพ ไม่สิ สามสิบนาที ศึกษาวีแบแบ ไป ตอนนี้คิดว่าจะศึกษาแค่เรื่องนี้ให้จบก่อนดีกว่า (ต้องหัดทำอะไรให้จบบ้างนะ) ยังไม่ไปเรื่องอื่นครับ คิดว่าจะซูมออก ใส่รายละเอียดน้อยลงครับ นี่ครับ ผมศึกษาตามเรฟจาก We Bare Bears ครับอันนี้

จากนั้น ชั่วโมงอนิเมชั่น ตอนแรกก็ยังงงๆนิดหน่อยว่าควรจะทำยังไงดีกับ process ก็สรุปกับตัวเองอีกรอบว่า จะใส่ breakdown and inbetween ไปตามส่วนๆต่าง จนเรารู้สึกโอเค แล้วค่อยไปคลีนอั๊พครับ มีไป adjust timing โดยรวมตอนที่คพบบ บ๊ายบายเต่าทอง แล้วก็มีเพิ่ม inb ช่วงที่คพบบยังไม่ได้แปลงร่าง ตอนฉากเปิดมากำลังนอนอยู่ครับ ก็ได้เข้าใจว่า เวลาร่าง ถ้าเส้นยุ่งน้อย มันก็จะเร็ว เวลาที่เราวาดเพิ่มเฟรนอินบี คือเอาจริงๆ ถ้ามันยุ่งมาก ก็ต้องคลีนเส้นหน่อยแหล่ะ ให้พอว่าแบบ อินบีได้ถูก เส้นไม่งงระหว่างก่อนหน้าและต่อไป แค่นั้น แต่ต้องเก็บการคลีนเส้นสุดท้าย ไว้ท้ายสุด ตอนที่เล่นเพลย์ทั้งเรื่องดีกว่า นึกออกไป ต้องทำๆๆๆ พูดไปมากกว่านี้เดี๋ยวจะเริ่มปวดหัวคิดมากไป

ต่อมาเป็นชั่วโมงสตอรี่บอร์ด ผมจำไม่ได้และว่าทำก่อนหรือหลังออกไปคาเฟ่ น่าจะก่อนครับ ทำไปตอนแรกก็เกือบล้มโต๊ะ (ออ ไม่สิ ทำตอนดึกๆใช่) วันนี้เรียนเรื่อง staging and camera moves ครับ มีเรื่อง

shooting method ที่น่าสนใจเป็นตุ๊กตาดัมมี่ให้ฟอโล่ตามนี้ครับ

establish wide/opening shot
introduce char with medium shot
over the shoulder (ots) for dialogue
stay in close for conversation (don’t pull back!)
end on strong composition

ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเอามาฝึกวาดบ่อยๆ เล่าบ่อยๆครับ project city’s rad ก็เคยบอกว่า ให้ทำบอร์ดบ่อยๆ แบบโง่ๆง่ายๆเนี่ยแหล่ะ ก็ไว้อาศัยตาม exercise from SAO and PCT แล้วกันครับตอนนี้

นี่คืองานที่ทำการบ้านสองครับ เค้าให้ลองบอร์ด เรื่องราวสมมติ ว่า superman is having a coffee with captain america ครับ ผมเลยนั่งเขียนเรื่องราวออกมาสะเปะสะปะ แล้วก็ลองวาดบอร์ดออกมา แบบยุ่งๆ แบบที่ตัวเองไม่ได้ชื่นชอบลายเส้นตัวเองเท่าไหร่ เนี่ยแหล่ะ แต่เน้น (จริงๆยังทำได้ดีกว่านี้ แต่ด้วยเวลาและความง่วง ขี้เกียจ) วาดเพื่อเล่าเรื่อง คือ มองแล้วเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตรงนี้สำคัญสุด (อยากไปดูวิดิโอ drawing from storyboards from Nick Sung ต่อเลย ใจเย็น)

ต่อมาเป็น คาเฟ่สเก๊ตช์ที่ออกไปนั่งที่เดิม เพื่อลดความยุ่งยากในการตัดสินใจออกไปครับ เลือกทำอะไรแบบเดิม ประหยัดเวลามากกว่า ได้วาดคนจากมุมบน ได้ลองวาดฉากนิดหน่อย ก็คือ สังเกตแอร์แล้วก็สายด้านบน จริงๆวันนี้น่าจะไปลองวาดลักษณะของการเก็บ perspective ก็น่าสนใจนะ คือมีโจทย์ที่ชัดเจนก่อนวาด อืมใช่ (ก่อนหน้าโน้น ที่พยายามปั้นพอร์ตเข้า calarts ก็จะเน้นวาดแบบที่ไม่ยกมือ แต่ก็ ใจเย็น เราไม่จำเป็นต้องสเก๊ตช์ด้วยวิธีนั้นอย่างเดียว เราต้องรู้จัก direct your own goal ใช่ ต้องการจะวาดอะไร เพื่ออะไร เรียนรู้อะไร เป็นต้น)

โอเค สุดท้ายแล้วก็คือชั่วโมงฟรีไทม์ จริงๆควรเอาไว้ฝึกการวาดเพื่อสตอรีบอร์ด (นี่ โฟกัสๆ) แต่ว่าสุดท้ายไปเปิดดู Project City แทน เลยได้เรียนเรื่องการ cutting มาแทน เป็นการเรียนเรื่อง storyboard ไปแทน เราว่าค่อนข้างหลุดประเด็นนะ ตอนแรกที่เดินกลับบ้านตั้งใจจะเรียน drawing skill: composition มากกว่า อันนี้เอาใหม่ แสดงว่าใจยังอยากเรียน project city อยู่ แผนยังงงๆ วันนี้เอางี้แล้วกัน ให้ครึ่งชั่วโมงเปิดดู Project City แยกออกมาจาก Maihua animation ดีกว่า (เพราะมันก็ไม่เวิร์คหรอกเอาไว้ด้วยกัน) ช่วง 1 - 1:30 pm ดีกว่า จะได้มีแก๊บให้หายใจได้หน่อย อืม เราว่าเราชอบที่นี่เพราะว่าเค้ามีให้ทำบฝด้วย แล้วก็สอนแบบ นี่นิดนั่นหน่อยน่ะ