ทำไปทำไม
เพื่อวาดฟิกเกอร์ได้สมจริงขึ้น
〰️
คนดูก็จะเชื่อมต่อกับตัวละครมากขึ้น
〰️
ตัวละครก็จะถ่ายทอดเรื่องราวได้ดีขึ้น
〰️
เพื่อวาดฟิกเกอร์ได้สมจริงขึ้น 〰️ คนดูก็จะเชื่อมต่อกับตัวละครมากขึ้น 〰️ ตัวละครก็จะถ่ายทอดเรื่องราวได้ดีขึ้น 〰️
1:26am วงจรนี่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดจริงๆนะครับ ไม่มีอะไรแน่นิ่ง ผมดีใจที่วันนี้ได้วาด gesture drawing ต่อเป็นวันที่สอง ไม่ถอดใจไปนอนเสียก่อน วันนี้แม้จะไม่ได้ทำ walk chailek เพราะว่ามีภารกิจครอบครัวไปก็ส่วนใหญ่ของวันแล้ว แต่ก็ได้ทำงานให้พี่ชาย (ส่วนของการสะสาง) แล้วก็ได้ฝึกวาด gesture (ส่วนของการฝึก drawing) ไม่ได้ทำ AMM (animation, maihua story and maihua short film) ไม่เป็นไรครับ แค่อย่างน้อยหยิบมาทำสักอย่าง แล้วอันไหนที่เริ่มทำเป็นกิจวัตรได้ก็ลุยดู แบบที่ว่ายน้ำมาได้ต่อเนื่องเกือบทุกวัน
สิ่งที่บอกว่าเป็นวงจรคือ ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรทำไปก่อน วาดเลย ไม่อยากคิดเยอะ กูถูกนะ คิด กับ ทำ มันก็ต้องแยกกัน (มันจะพร้อมกันได้ไหมนะ อาจจะพร้อมได้ในลักษณะ automatic) คือครั้งนี้วาดไปแล้วก็พอวาดเสร็จ ก็ทำให้เกิดการคิดว่า เออ เราฝึก gesture ไปทำไมนะ เราต้องการอะไร คือเราถาม เพื่อที่ว่าเราจะได้รู้ทิศทางมากขึ้นไงครับ ว่ารูปต่อไป จะสังเกตอะไรดี line of action? anatomy? จะได้รู้ว่าสามสิบวินาทีต่อโพสพอไหม ต้องการอะไร อันนี้สำคัญนะ ซึ่งผมตอบได้ประมาณนี้
ฝึกวาดเพื่อให้วาด figure ได้สวยขึ้น เอาไปใช้วาดตัวละครในจักรวาลไม้หัวได้
ฝึกวาด ถึงแม้ว่าก็คิดว่าตัวเองจะต้องใช้เรเฟอเรนซ์ แต่ก็เพื่อที่ว่าเราจะได้ไม่ต้องพึ่งเรฟตลอดเวลา สามารถจินตนการโพสได้ เวลา sketch ใช่แล้วๆ เวลาเราอยาก explore poses, character design, หรือว่าคิดดูตอนเอาไปวาด storyboard สิ ใช่ อันนั้นนสำคัญเลย จะมานั่งถ่ายเรฟตัวเองทั้งหมดเพื่อทุกซีน เพื่อทุกตัว มันตายแน่ๆไม่ไหว เราเลยอยากฝึกตรงนี้ ซึ่งก็เนี่ยแหล่ะ คิดว่า gesture ก็คงช่วยไหม (หรือว่าช่วยเชิงข้อต่อไปมากกว่า) ซึ่งก็ต้องเรียนคู่กับการวาดแบบ figure drawing (ในความหมายก็คือ ไม่ได้น้อยเส้นขนาดนั้น มีการพิจารณาโครงสร้างมากขึ้น) แล้วก็ anatomy ไปเลยด้วย คิดถึงคลิปของ Toniko Pantoja เลย อยากไปดู
ฝึกเพื่อเอาไปอนิเมต movement ท่วงท่า ได้สวยงามมากขึ้น เพราะคิดว่า ถ้าว่า gesture บ่อยๆ น่าจะเข้าใจทิศทาง การเคลื่อนไหวร่างกาย รวมถึง ร่างกายใน มุม perspective ต่างๆมากขึ้น