Chungking Express
หนีห่าว ไม่สิต้องเหนโหว เพราะวันนี้ดูหนังจีนฮ่องกงมาครับ ไปเจอเพื่อนจีนผมมา ที่เรียนด้วยกันที่ลอนดอน ชื่อเชิงเย เค้าจะมีหนังเจ๋งๆมาให้ผมดูตลอด เคยดูอนิเมชั่นที่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า แล้วก็หนังจีนที่เกี่ยวกับความดี ความเป็นมนุษย์ ค่อนข้างเป็นหนังเชิงปรัชญา
มาเรื่องนี้ ผมก็ไม่ได้ถามหรอกว่าเกี่ยวกับอะไรยังไง เพราะผมก็ชอบเซอร์ไพรส์ตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ตลกว่าทุกครั้งก่อนเค้าเริ่มเล่นหนัง ผมก็จะลังเลว่าหรือจะขอดูหนังง่ายๆดีหว่า ตลกดีนะครับ แบบนี้ตลอด เวลาคนอื่นเลือกหนังให้เรา เราก็จะไม่แน่ใจ น่าจะเป็นเพราะ comfort zone ตัวเองด้วย แต่ก็เปิดใจดูครับ
หนังเล่นไปไม่เท่าไหร่ ทาเคชิ คาเนชิโร่ โผล่มาด้วย หล่อมาก 55 เลยเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาทีเดียว แล้วหนังก็สวยมากครับ สีภาพ องค์ประกอบ เคมีของนักแสดง บทพูดก็มีความเป็นบทกวีดีครับ เป็นประโยคในลักษณะที่เหมือนเวลาเราพูดกับตัวเอง เวลาฟังเลยรู้สึกเหมือนเราเข้าไปเป็นตัวละครในหนังก็เป็นได้
ไปๆมาๆหนังพูดเกี่ยวกับเรื่องความรัก ซึ่งก็แน่ล่ะครับ มันก็เจ๋งแน่นอนล่ะตรงที่ว่าเค้าทำให้ผมรู้สึกเชื่อมต่อได้ มันมีความสมจริง ที่ว่าทุกอย่างมันก็ไม่มีขาวมีดำ เป็นสีเทาๆในหลายๆเฉดสี ไม่รู้ว่าเพราะผมก็เพิ่งผ่านเรื่องราวความรักมาด้วยรึเปล่า ผมเลยรู้สึกเข้าถึงกับหนังเรื่องนี้ดี อย่างนึงที่รู้สึกตอนที่หนังกำลังจะจบ คือหนังทำให้ผมเข้าใจว่าความรักเป็นเสมือนมนต์ดำชนิดหนึ่ง ที่สามารถจะส่งผลต่อการกระทำของเราได้อย่างบางทีก็ไม่รู้ตัว คงเพราะเรามองเห็นตัวละครในมุมมองที่ไกลออกมาล่ะมั้งครับ เหมือนเห็นคนเมารัก (เมาด้วยเหล้าคนละชนิดด้วยนะ) หลายๆคนพูดคุยกัน ก็แปลกดีครับ แล้วก็หนังทำให้ได้ฉุกคิดว่าจริงๆคำว่า รัก ก็ช่างเป็นคำที่เหมารวมความหมายเหลือเกิน เพราะรักแบบรักอย่างมีสติ รักที่เริ่มมาจากการรักตัวเองก่อน กับรักในลักษณะหลงรัก มันก็ช่างแตกต่างกัน แต่กลับใช้คำเดียวกันว่า รัก