ทำตามหน้าที่

F38CE5CD-AFC3-4ED1-93F6-7D365BD7D2F7.JPG

ความเงียบนี่ จริงๆแล้วดีนะครับ ทำให้เราได้รู้สึกสงบ ทำให้เราได้ยินใจแล้วก็ความคิดของตัวเองชัดขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อพูดถึงเสียง เค้าก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน ดังเช่นเสียงหนังพากษ์ไทย ที่ผมได้ยินอยู่บ่อยครั้งเวลานั่งทำงานอยู่บริเวณโถงห้องนั่งเล่นซึ่งผมจะเปิดประตูรับลมออกไปที่ชานระเบียงที่นั่งด้านนอกซึ่งติดต่อออกไปยังสวนหลังบ้าน เป็นเสียงที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจ เสียงที่ส่งสัญญาณให้สมองผมไปดึงเอาความทรงจำสมัยเด็กที่ผมนอนอยู่ในห้องนอนของตัวเองแล้วก็เปิดโทรทัศน์ค้างไว้เพื่อกล่อมให้ตัวเองหลับ ผมก็คงขอเดาว่าน่าจะเป็นทีมพากษ์พันธมิตรละกันครับ รวมไปถึงเสียงเพลง ที่ผมก็โชคดีได้พาน้องลำโพง Bose ตัวน้อยๆกลับมาจากลอนดอนด้วย ซึ่งน้องเค้าเล่นเสียงเพลงได้เพราะเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่า โดยเฉพาะเพลงเศร้านี่ผมจะรู้สึกเข้าถึงมาก คงเพราะตัวเองเก็บซ่อนความเศร้าไว้ในใจอยู่เยอะ เลยอาจจะทำให้รู้สึกเหมือนว่าเราได้เชื่อมโยงกับเสียงเพลงละมั้งครับ แต่ช่วงเวลาการเปิดเพลงนี่ก็เป็นสิ่งที่น่าทำความเข้าใจนะครับ บางจังหวะเปิดเพลงก็ยิ่งทำให้งานตรงหน้านั้นทำได้ดีขึ้น คือคล้ายๆว่าผมจะต้องลดเสียงความคิดตัวเองลงหน่อย เพื่อที่จะปล่อยใหัสัญชาตญาณศิลปินได้ทำงานสักครู่ เพราะบางทีถ้าผมปล่อยให้ความคิดวิเคราะห์ การตัดสิน ครอบงำมากเกินไป ผมก็จะติดอยู่กับกับดักของความสมบูรณ์แบบ ที่ทำให้ผมไม่กล้าเสี่ยงหรือลองอะไรที่ออกนอกกรอบออกไปจากเดิม วันนี้ผมเลยตัดสินใจแล้วว่า จะมาทำกิจกรรมกับน้องๆต้นไม้เกี่ยวกับเสียงเพลงกันสักหน่อย จะมีก็แต่พี่ชายใหญ่ที่ถึงเวรซักผ้า แล้วก็น้องชายเล็กจะไปรดน้ำต้นไม้เท่านั้น เลยไม่ได้ร่วมวงกับพวกเรา

“พี่ทองอยากให้ใหญ่ร้องด้วยไมค์แดงมั้ยคะ” หญิงใหญ่ตะโกนถามผมมาจากทางประตูเข้าบ้าน “พี่ว่าเราร้องด้วยหูฟังไอโฟนมั้ย ถ้าใช้ไมค์แดงอาจจะหนักแล้วก็ใหญ่เกินไปที่เราจะถือ แล้วพี่ก็หยิบหูฟังมาเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วด้วยจ้ะ เข้าบ้านๆมาเถอะ ขอบคุณมากพี่หญิงใหญ่” ผมบอกหญิงใหญ่พลางค่อยๆถอดสมาธิของตัวเองออกจากงานเขียนสักครู่เพื่อคุยแผนงานกับน้องๆ

“เดี๋ยวสรุปวันนี้เราจะมาขอบคุณบทเพลงกันนะ หญิงใหญ่ ชายกลาง หญิงเล็ก” ผมไล่สายตาหาน้องๆไม้หัวผู้ร่วมทีมในวันนี้ของผม “เป็นไงบ้างชายกลาง พี่ให้เราช่วยดูเพลงจากแอคเคาท์ Spotify ของพี่ มีเพลงไหนที่เรารู้สึกว่าน่าสนใจมั้ย” ผมถามชายกลางผู้ซึ่งนั่งจมอยู่กับไอโฟนของผมมาได้ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงพอดี “กลางสังเกตว่าพี่ทองจะชอบฟังเพลงเศร้าเยอะนะครับ “ ชายกลางวิเคราะห์ราวกับเป็นคุณหมออ่านวินิจฉัยโรค “แล้วก็เหมือนว่าเพลงที่อยู่ในเพลลิสต์พักหลังๆก็จะเป็นเพลงญี่ปุ่น อย่างเพลงจาก Hideaki Tokunaga หรือว่า Kobukuro” “Tsubomi!!!” หญิงเล็กตะโกนชื่อเพลงโปรดของเธอจากคู่หูนักร้องชาวญี่ปุ่นออกมา ผมจำได้ดีถึงคืนที่เธอนอนฝันแล้วฮัมเพลงนี้วนไปวนมา มันเป็นเรื่องแปลกมากที่จะเกิดกับหญิงเล็กซึ่งปกติจะนอนแล้วไม่ฝัน “อ้า ใช่แล้วน้องหญิงเล็ก เพลงนั้นพี่ทองเคยชอบร้องมากๆ เพลงล่าสุดของเค้าก็เพราะนะครับ Sotsugyo” ผมบอกหญิงเล็ก “ลองเพลงใหม่ๆดูบ้างมั้ยคะ” หญิงใหญ่ถามขึ้นมากลางคัน หลังจากที่เธอค่อยๆปีนขึ้นมาจนถึงบนโต๊ะทานข้าวที่ตอนนี้มีผม ชายกลาง และ หญิงเล็กนั่งอยู่ด้วยกัน “หญิงใหญ่ว่า เวลาเราได้ลองอะไรใหม่ๆ เราจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่างเพิ่มขึ้น แล้วเหมือนสมองเราก็จะได้รับการกระตุ้นด้วยนะคะ นึกถึงตอนอยู่ลอนดอนสิคะ” หญิงใหญ่ให้ความเห็นที่ทำให้ผมนึกถึงคลาสเวิร์คช็อปหลายๆคลาสที่ผมได้ลองก่อนจะกลับจากลอนดอน คลาสที่สุดจะ ลองอะไรใหม่ๆ อย่างการวาดภาพประกอบการเต้น เป็นต้น “จริงด้วยสินะ” ผมตอบ “งั้นเราลองเลือกดูจากเพลลิสต์ Like มั้ย ว่าล่าสุดพี่ร้องเพลงอะไร” “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเพลง Melody ของ Koji Tamaki ครับ” ชายกลางตอบโดยไม่ต้องก้มหน้าลงไปเสิร์ชหาชื่อเพลง “กลางคิดเผื่อไว้แล้วว่าเราอาจจะเลือกเพลงจากเพลลิสต์นี้ เลยจำได้ครับ” ชายกลางตอบอย่างภาคภูมิใจ สิ่งที่เค้ารู้สึกทุกครั้งเวลาที่เค้าคิดว่าเค้าสามารถให้คำตอบที่เป็นประโยชน์ “สุดยอดเลยชายกลาง พี่เกือบลืมไปแล้วถึงเพลงนั้น ใช่ๆ พี่ชอบมากตอนที่ฟังเพลงนั้น เพราะมันให้ความรู้สึกที่สั่นไหวมากๆ ยิ่งบวกกับน้ำเสียงของนักร้อง พี่โอเคนะ หญิงใหญ่โอเคมั้ยล่ะ เพราะว่าเราจะเป็นนักร้องให้พวกเราในวันนี้” “ได้เลยค่ะ ใหญ่ขอเวลาซ้อมสักครู่ ระหว่างที่พี่ทองกับชายกลางแปลเพลงได้ค่ะ” หญิงใหญ่ตอบพร้อมกับใช้มือสาวผมยาวของเธอ อาการที่เธอทำทุกครั้งก่อนจะเริ่มร้องเพลงเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม “เยี่ยมไปเลย ส่วนหญิงเล็ก พี่ก็ขอวานเราวาดรูปสำหรับวันนี้หน่อยนะครับ” ผมหันไปบอกหญิงเล็กซึ่งกำลังมองหาอะไรบางอย่าง “สบายมากคะ แต่ว่าเล็กขอใช้หมึกสีเขียวได้มั้ยคะ เล็กอยากลองดูค่ะ” หญิงเล็กจบประโยคพอดีกับที่เธอหาหมึกสีเขียวซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกับกล่องทิชชู่ “ตามสบายเลยครับศิลปิน” ผมยิ้มให้น้องหญิงเล็ก

จากนั้นเราก็แยกย้ายใช้เวลาช่วงบ่ายจรดเย็นทำตามหน้าที่ของเรา หญิงเล็กซ้อมมือด้วยการออกไปสเก็ตน้องชายเล็กรดน้ำต้นไม้ รวมถึงรูปของพันธุ์ไม้แปลก หญิงใหญ่ซ้อมเสียงและฟังเพลงอยู่ที่ชั้นสอง ส่วนผมก็นั่งอยู่หน้าคอมกับชายกลางเพื่อแปลเพลง เพื่อเป็นการทบทวนภาษาญี่ปุ่นไปในตัว

“พี่ว่าพี่คงอยากจะแปลในลักษณะที่มีการปรับเปลี่ยนถ้อยคำด้วยนิดหน่อย” ผมบอกชายกลางพร้อมๆกับที่หยิบสมุดโน้ตและปากกาขึ้นมาเตรียมพร้อม “พี่ทองอยากรู้คำแปลคำไหนเป็นพิเศษ บอกกลางนะครับ เดี๋ยวกลางจะเสิร์ชหาให้ครับ” ชาบกลางตอบพลางเปิดแท็บใหม่หลายแท็บ เราใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าเพื่อแปล จากนั้นผมจึงไปคุยกับหญิงใหญ่เพื่ออธิบายความหมายให้เธอฟัง เพื่อที่เธอจะได้อินกับบทเพลงมากขึ้น สักครู่เธอก็ขอตัวเข้าไปอัดเพลงในห้องนอนผม พอเราร่วมกันทานข้าวเย็นจนเสร็จ เราทุกคนเลยได้ฟังหญิงใหญ่ร้องเพลงจากในแอพลิเคชัน Smule ซึ่งเธอก็แคปภาพตอนเธอไหว้งามๆ ก่อนร้องเพลง เอาไปลง story บน IG ของเธอเรียบร้อย แล้วหญิงเล็กก็เลยตัดสินใจที่จะเอาภาพนั้นมาวาดต่อ ก็ที่เห็นด้านบนนั่นล่ะครับ ผลงานของรากน้องสาวอาร์ทติส

ส่วนด้านล่างนี้คือเพลงกับบทแปลที่ผมกับชายกลางช่วยกันเกลาครับ ต้องขอบคุณแหล่งอ้างอิงจากเว็บนี้ด้วยครับ https://lyricstranslate.com/en/%E3%83%A1%E3%83%AD%E3%83%87%E3%82%A3%E3%83%BC-melody.html

あんなにも好きだった

君がいたこの町に

今もまだ大好きな

あの歌は聞こえてるよ

いつも優しくて少し寂しくて

あの頃は何もなくて

それだって楽しくやったよ

メロディー泣きながら

僕たちは幸せを見つめてたよ

懐かしいこの店の

隅っこに置いてある

寄せ書きのはじの方

君と書いたピースマーク

みんな集まって泣いて歌ってたね

あの頃は何もなくて

それだって楽しくやったよ

メロディーいつの間に

大切な物なくした

あの頃は何もなくて

それだって楽しくやったよ

メロディー泣きながら

遠い空流されても

君のこと忘れないよ

いつだって楽しくやったよ

メロディー泣かないで

あの歌は心から聞こえてるよ

ที่แห่งนี้ ในครั้งที่ยังเคยมีคุณ คนที่ชั้นรัก

เพลงโปรดของเรา ก็ยังคงบรรเลงเล่น จนบัดนี้

ด้วยท่วงทำนองที่อ้างว้างอ่อนหวาน

ในตอนนั้นซึ่งไร้ซึ่งสิ่งใด

แค่เพียงเท่านั้น เราก็ยังมีความสุข

ร้องร่ำออกมาเถอะ ท่วงทำนอง

แล้วจึงมองดูความสุขที่เราเคยได้มี

ที่ตรงมุมห้องของร้านนี้ในความทรงจำ

ชั้นยังคงมองเห็น พีซมาร์ค อยู่ตรงมุมผ้าใบ

ชั้นรวบรวมถ้อยคำทั้งหลาย แล้วจึงร่ำร้องออกมา

ในตอนนั้นซึ่งไร้ซึ่งสิ่งใด

แค่เพียงเท่านั้น เราก็ยังมีความสุข

ท่องทำนองเอ๋ย เจ้าคงไม่ทันรู้ตัว

ว่าสิ่งสำคัญได้จากเราไปแล้ว

ในตอนนั้นซึ่งไร้ซึ่งสิ่งใด

แค่เพียงเท่านั้น เราก็ยังมีความสุข

ร้องร่ำออกมาเถอะ ท่วงทำนอง

ไหลรินขึ้นสู่ท้องฟ้าไกล

เรื่องราวของคุณ ชั้นไม่ลืมหรอก

เพราะมันยังคงทำให้ชั้นมีความสุข

ไม่ต้องร้องแล้ว ท่วงทำนอง

เพราะเพลงโปรดเพลงนั้น ชั้นจะขอเก็บไว้ฟังในใจ

ส่วนนี้ก็คือบทเพลงต้นฉบับครับ


Previous
Previous

ทำไม่ได้ หรือ ไม่ได้ทำ

Next
Next

หอยตลับ