ฝ่ามือ
“กบกระโดดหายไปหลังต้นกล้วยแล้วครับ” ชายเล็กเดินเข้ามารายงานผม ในขณะที่ผมกำลังล้างทำความสะอาดรองเท้าคู่ที่สามยี่ห้อดอกเตอร์มาร์ติน ซึ่งสักครู่นี้เอง ผมเจอกบซ่อนอยู่ข้างในขณะที่กำลังฉีดน้ำเพื่อล้างสิ่งสกปรก
“ได้คุยอะไรกันมั้ย เค้าตกใจมั้ยที่พี่เอารองเท้ามาล้าง” ผมถามชายเล็ก “เค้าบอกว่าเค้าชอบหนังของรองเท้าคู่นี้ มันนุ่มดี เค้าเลยแอบมาใช้นอนครับ เค้าฝากบอกพี่ทองว่า ไว้พอกลับไปคอนโดแล้ว ว่างๆก็หาเวลามาอีก เพราะเค้าอยากฟังพี่ทองร้องเพลง” ชายเล็กบอกขณะที่กำลังค่อยๆใช้มือเกี่ยวเอารองเท้าแตะยี่ห้อ Keen สีขาว รุ่น Uneek คู่ที่ผมซื้อตามศิลปินชาวญี่ปุ่น Yu Nagaba เพื่อนำไปตากแดดข้างนอกบ้าน เพราะพรุ่งนี้ผมจะกลับคอนโดแล้ว วันนี้ชายเล็กเลยอาสาช่วยผมเก็บแล้วก็ทำความสะอาดสิ่งของ
ผมเดินตามชายเล็กออกไปที่สวนหลังบ้าน กบหายไปแล้วจริงๆด้วย ผมพยายามหามุมที่แสงแดดส่องถึง เพราะว่าเวลานั้นพระอาทิตย์กำลังจะตก ผมเลยไม่มีทางเลือกมากนัก “ว่าแต่ชายเล็กร่ำลาเพื่อนๆที่บ้านนี้ครบหมดทุกตัวหรือยัง” ผมถามน้อยชายตัวน้อยที่ตอนนี้กำลังพูดงึมงำอะไรบางอย่างกับต้นข่าแดงที่อยู่ใกล้เคียง “เกือบครบครับพี่ทอง ยังไงผมรู้ว่าพี่ทองก็คงพาคุณแม่มาที่บ้านนี้อีก ผมเลยไม่ได้รีบร้อนจะต้องร่ำลาทุกคนหรอกครับ เอาเวลามาช่วยงานพี่ทองให้เสร็จก่อนดีกว่าครับตอนนี้ พรุ่งนี้รถมารับตั้งแต่บ่ายสอง พี่ทองพร้อมหรือยังครับ” ชายเล็กเปลี่ยนมาถามเรื่องของผมแทน “ขอบคุณเรามากเลย นี่ปกติงานบ้านแบบนี้พี่ชายใหญ่เค้าก็จะช่วยจัดการ แต่เหมือนวันนี้เค้าจะขอพักยาวหนึ่งวัน เพราะเมื่อวานเค้าหักโหมออกกำลังไปหน่อย หลังจากที่ออกกำลังตามคลิปวิดิโอบนยูทูปกับพี่ยี่สิบนาที เหมือนเค้าจะแอบไปเล่นต่ออีก ไปเปิดคลิปที่เพื่อนพี่ที่ชื่อสมายล์เค้าแชร์มาให้จากเฟสบุค เป็นการออกแบบ HIIT น่ะ” ผมบอกชายเล็กด้วยความรู้สึกขอบคุณ เพราะปกติน้องคนนี้เค้าจะใช้เวลาช่วงบ่ายถึงเย็น สนทนากับต้นไม้ในสวนแล้วก็ไหนจะสัตว์น้อยใหญ่อีก แต่เพราะเค้าเห็นว่าผมล้างกระเป๋าเดินทางอยู่ยกใหญ่ เค้าเลยยื่นมือเข้ามาช่วย
“น่าสนุกอยู่นะครับ ออกกำลังกายกัน ผมได้ยินเสียงพี่ทองร้องโอ๊ยๆ มาจากชั้นสองอยู่บ้างบางบ่ายครับ สงสัยคงเล่นท่ายากๆหรือเปล่า ผมอาศัยเวลาที่ไปเดินชมเพื่อนฝูง บางทีก็ต้องปีนต้นไม้บ้าง มุดดินบ้าง ใช้เป็นการออกกำลังกายเอาครับ วันก่อนเจอพี่กระแตอีกรอบ เค้าก็พาผมไปเก็บลูกไม้กิน วิ่งตามพี่เค้า ได้เหงื่อดีเลยครับ” ชายเล็กคุยกับผม มือก็บรรจงลูบใบไม้ของต้นไม้ที่มีลักษณะคล้ายต้นปาล์มจิ๋ว ผมว่าผมได้ยินเสียงหัวเราะออกมาจากต้นไม้ ผมคงล้างกระเป๋าหนักไปหน่อยมั้งครับ
“พูดถึงชายใหญ่บาดเจ็บ จริงๆพี่ก็มีปวดตามมือ ตามข้อ เหมือนกัน แต่จะเป็นหนักตอนเช้า” ผมบอกชายเล็ก สายตาจ้องมองมือตัวเอง พร้อมสังเกตเห็นคราวสีที่บริเวณฝ่ามือ มาจากงานเพนท์ผ้าใบที่ผมเพนท์ล่าสุดเมื่อวาน ชายเล็กผละตัวออกจากต้นไม้จิ๋วทันทีแล้วจึงเดินมาขอดูมือผม “ไม่ได้การแล้วครับพี่ทอง พี่ทองต้องพักมือมากขึ้นนะครับ ยิ่งโดยเฉพาะตอนนี้พี่ทองสรรหากิจกรรมมาทำเยอะ ตั้งแต่ซักผ้า รดน้ำต้นไม้ ทำอาหาร ล้างจาน ไปจนถึงงานส่วนตัวอย่างการเขียนงาน พิมพ์งาน แล้วก็วาดรูปอีก หรือว่าเป็นเพราะโอซีดีหรือเปล่าครับ”
สมแล้วที่เป็นชายเล็ก เค้าสามารถจะล่วงรู้ถึงข้อมูลบางอย่างส่วนตัวของเราราวกับเค้ากำลังเจอปัญหาเดียวกันกับเราอยู่จริงๆ “พี่ว่าก็คงมีส่วนนะ กับโรคย้ำคิดย้ำทำ” ผมบอก “อย่าไปเรียนว่าโรคเลยครับ มันก็แค่สิ่งรบกวนนิดหน่อย” ชายเล็กพยายามให้กำลังใจผม “ครับเล็ก ก็คือตรงนั้น มันทำให้เวลาพี่ล้างจานเป็นต้น พี่ก็จะล้างบ่อยมากเกินปกติ ยิ่งช่วงนี้มีโรคระบาด พี่ยิ่งต้องล้างให้มั่นใจเพิ่มขึ้นไปอีก” ผมบอกน้อง กับไม้หัวผมสามารถบอกได้ทุกเรื่องกับทุกคน เพราะผมรู้ว่าทุกคนจริงใจกับผม แล้วก็พร้อมที่จะช่วยเหลือผมทุกเมื่อ “พี่ทองคงไปใช้จิตจดจ่อกับความคิดว่า สะอาดๆๆๆ มากไปครับ เดี๋ยวพี่หญิงเล็กคงพาพี่ทองนั่งสมาธิ หรือฝึกการปล่อยวางเพิ่มเติมผมว่า… แล้วมีตรงไหนอีกมั้ยที่พี่ทองคิดว่าตัวเองใช้มือเยอะขึ้นช่วงนี้ครับ” ผมคิดครู่หนึ่ง “เท่าที่นึกออกก็มีซักผ้านะ พี่ก็บิดผ้าบ่อยอยู่ แต่ก็ไม่ได้ทำทุกวัน พี่ว่าน่าจะมาจากตอนที่พี่วาดรูป เพราะว่าพี่จำได้ถึงภาพตัวเองกดปากกาหัวแร้งเวลาที่พี่วาดด้วยน้ำหมึกจาก Windsor & Newton”
“ปล่อยไปนะครับพี่ทอง ไม่ต้องติดเนี้ยบนะครับ นึกถึงคลาสที่เค้าสอนพี่ทองเรื่อง ผิดพลาดให้ยิ่งใหญ่ สิครับ จำได้มั้ยครับ ที่พี่ทองเอาอนิเมชันโปรเจคแรก ที่เป็นเรื่องของผมหงอยเศร้าในห้อง เอามายำใหม่ให้เละ แล้วมันก็ออกมาน่าสนใจไม่เบาเลย นึกถึงความปล่อยวางตรงนั้น แล้วก็วาดแบบที่พี่ทองสนุกไปเลยครับ ไม่ต้องไปคร่ำเคร่งจนร่างกายไม่ไหวนะครับ” ชายเล็กบอกผม “ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็รู้ว่าบางทีก็ห้ามยาก เพราะพี่ทองเป็นคนเอาจริงเอาจังเหลือเกิน” ชายเล็กเดินเข้ามาใกล้ผมอีก พร้อมทั้งหยิบมือผมขึ้นมาสัมผัสเหมือนนักช้อปที่หยิบสิ่งของขึ้นมาลองถือก่อนซื้อ “มา ผมจะนวดให้ครับ”
ชายเล็กออกท่าทางนวดเสียจนผมอดนึกถึงพี่ลิซ่าไม่ได้ เพื่อนชาวมาเลเซียที่สมัยก่อนเราสองคนจะไปร้านนวดกันบ่อยๆเพื่อผ่อนคลาย ผมอยากจะถามชายเล็กว่าเค้าจำลิซ่าได้ไหม เพราะลิซ่าก็เคยแวะมาที่ห้องผมที่คอนโดอยู่ก็หลายครั้ง แม้ว่าแต่ละครั้งเธอจะอยู่ไม่ค่อยนานสักเท่าไหร่ แต่ผมก็ไม่อยากขัดน้องชาย ซึ่งตอนนี้ก็รับเอาความเอาจริงเอาจังของผมไปใช้นวดนิ้วผมเรียบร้อย
“พี่ทองยังต้องไปอีกไกลนะครับ โดยเฉพาะกับการเขียนบอกเล่าเรื่องราวของพวกเราห้าพี่น้อง นี่อาจจะเป็นนิมิตหมายที่ดีให้พี่ทองผ่อนเรื่องการวาดลองนิดหน่อย เพื่อเอาเวลาไปเพิ่มให้ส่วนอื่นที่ขาด เช่นการอ่านหนังสือ ถือซะว่าเป็นการพักมือด้วยครับ” ชายเล็กว่า “โอ๊ย” ผมร้อง “งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ชายเล็กจะช่วยพี่ทองวาดสติกเกอร์ชิ้น What are you doing? ให้เสร็จ พี่ทองจะได้พักการใช้ปากกาเมาส์ด้วย พี่หญิงเล็กสอนชายเล็กสเก็ตช์ต้นไม้อยู่บ่อยๆครับ เพราะชายเล็กต้องคอยจดบันทึกการเลี้ยงดูต้นไม้ ชายเล็กเลยพอจะมีสกิลการวาดบ้าง” ชายเล็กสาธยายถึงแผนการในการช่วยกอบกู้ฝ่ามือผมกลับมา แต่ประโยคที่ผมได้ยินแบบชัดถ้อยชัดคำได้สิ้นสุดไปแล้ว เพราะตอนนี้ผมกำลังอยู่ในสภาวะเคลิบเคลิ้ม กับฝีมือการนวดของน้องชายเล็ก