Week 3 | Day 7 of 7
8:15am สวัสดีตอนเช้า เช้าที่อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน วันนี้มีวู้ดดี้มาให้กำลังใจแต่เช้า ถืองานปั้นหญิงเล็กมาด้วย ผมเห็นแล้วก็สะเทือนใจเล็กน้อยเพราะว่ามันแตกหักไปเยอะ ไว้มีโอกาส (คำนี้ใช้ทีไร มันได้ทำจริงสักทีไหมนะ) คงจะได้ปั้นหญิงเล็กและพี่น้องไม้หัวอีกครั้ง เรามาลุยกันต่อเช้านี้กับอนิเมชั่นดีกว่าครับ วันนี้ก็ตัดสินใจมาเรียน เขียน ก่อนออกกำลังเลยดีกว่า อย่างแรกของวันไปเลย (ไม่รวมกินกาแฟน่ะนะ)
***ให้เวลาสิ่งที่เราคิดว่าสำคัญที่สุดก่อนเพื่อนไงล่ะ = ไม้หัว อนิเมชั่น!***
เรามาต่อที่ Pixar in a Box: Advice on Characters กันดีกว่า เมื่อวานฟังไปหน่อยตรงนี้ศิลปินของสตูดิโอมาแนะนำว่า เราจะเริ่มสร้างเรื่องราวได้จากตรงไหน
What is something that, for you personally, you would say, oh, I’d love to watch movie like that, and make it. เราตอบเลย เราว่ามันคืออะไรที่มัน สนุกในการทำ เช่น experimental process หรือว่าการได้ใส่สิ่งที่เราชอบเช่นญี่ปุ่นหรือว่าดนตรี เพลงที่เราแต่งเป็นต้นอ่ะ เหมือนตอนที่เราพยายามทำหญิงเล็กช่วงแรก ตอนที่เราจะเอาการ์ตูนมาดัดแปลง จริงๆนั่นคือตัวเรามากกว่าไหมน่ะ มากกว่าที่จะต้องไปเริ่มตามชั้นตอนของการ์ตูนดิสนีย์อะไรแบบนี้ คือเอาเป็นว่า เราก็อยากหากระบวนการที่เราสนุกที่จะทำ หรือไอเดียที่สนุกที่จะลองด้วยน่ะใช่ (เช่นงานสนพ. พอรู้ว่าจะมีคาแรกเตอร์น้องบ๊วยดองไปโผล่ เราก็อยากทำเป็นต้น) แต่ก็ไม่นะ หนังที่เราอยาก ทำ หรือว่าหนังที่เรา อยากดู มันอาจจะต่างกันเหมือนกันนะ แต่ก็นั่นแหล่ะ เราก็อยากเห็นอะไรใหม่ๆอยู่เหมือนกัน แต่ก็เป็นแนวความคิดที่ดี ถามตัวเองว่า “อยากดูหนังแบบไหน” หรือจริงๆเราอาจจะนึกไม่ออก ต้องทำออกมาก่อนเลยมากกว่ากันแน่นะ? ไม่สิ จริงๆก็มีนะ ก็การ์ตูนแบบพิกซาร์นี่แหล่ะใช่ คือการ์ตูนที่มันซาบซึ้งใจ heart-warming ไม่ก็ thought provoking ไม่สิ นั่นแหล่ะ อบอุ่นใจ สอนใจ อันนี้มาก่อน อะไรแบบ rilakkuma ด้วยน่ะ สามมิติใช่เลย หรือว่า frankenweenie ด้วย อะไรที่ทำให้เราลืมโลกจริงไป อะไรที่ช่วยเปิดจินตนาการเรา เหมือนช่วงนี้ดู his dark material or never, from hbogo, something fantasy probably, something with magic and creatures and ‘strangeness’ of characters, dialogues, logic, something ‘new’ something that plays with time, with the truth.
https://www.pinterest.com/wattanasakc/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%99/ (ชายใหญ่เอาลิงค์แปะไปยังมู้ดบอร์ดมาแชร์ให้ครับ บอกว่าอยากนึกภาพให้ง่ายก็ต้องเอาภาพมาช่วยครับ)
Even if it’s not perfect, it’s great to just have things out in the world that are personal to you. (true, it makes me feel less lonely and more like ‘existing’.)
It’s good to look at other films for ideas and inspiration, and “structure” (this one in particular that i’m not quite focusing on when watching movies) and how they work things out, problems that they may have.
But, “always try to stay true to your gut and go with something that is important to you.”
Advice for new storytellers,
ฝึกเล่าเรื่องให้คนรอบๆตัวฟัง เพราะสุดท้าย stories are for people telling to people.
keep telling your story over and over ‘with people listening!’ หนึ่งคือตอนที่เราเล่า เราจะได้เจอคำถามหรือว่าได้คิดไปด้วยตอนที่เล่า สิ่งที่เราไม่ได้นึกถึงตอนที่เราเขียนมันออกมาครั้งแรกน่ะ รวมถึง ตอนที่เราเล่าคนอื่นก็จะพูดอะไรออกมาที่เราไม่ได้รู้เรื่องมาก่อนด้วยเป็นต้น (อันนี้ก็ต้องฝึก เพราะเราอีโก้สูง ไม่ค่อยอยากได้ไอเดียใครเท่าไหร่ รู้สึกเหมือนไปขโมยไอเดียเค้าด้วยมั้ยนะ ไม่ก็กลัวคำวิจารณ์ กลัวว่าสิ่งที่เราคิดไปจะหายไป ก็อีโก้นั้นแหล่ะ แล้วก็ ไม่รู้สิ เกรงใจด้วยไหมนะ เหมือนเราใช้เค้าเหรอน่ะ)
worry less about what you think people want from you and do express yourself as best as possible. ดูว่าอะไรที่ส่งอิทธิพลต่อชีวิตเราแล้วก็แสดงมันออกมาในงานเรางิน่ะ อย่างศิลปินคนนึงบอกว่างานของเธอที่คนชอบก็จะเป็นงานที่ทำให้ตัวเธอเองขำมากเพราะว่ามันดึงมาจากประสบการณ์ของเธอเองประมาณนั้น คล้ายๆที่พี่โจ้ readery บอกก็คือ เราก็ต้องหาก่อนว่าอะไรที่ตัวเราเอง connect ด้วยล่ะมั้งน่ะ
มีคนมาแนะนำด้วยว่าถ้าอย่างนึงถ้าสนใจอยากเข้า Pixar is ‘to be yourself.’ อ่าาาาา this again! reminds me of Gary!
the only thing to get better is to keep trying ความผิดพลาดจะสอนเราประมาณนั้น
แล้วนี่ก็คือสรุปเรื่อง Character จาก Pixar in a Box ถึงคำสำคัญต่างๆ