เดลิเวอรี่
“เป็นยังไงบ้างครับพี่ทอง อิ่มมั้ยครับ” ชายกลางถามผมพลางปอกกล้วยหอมทานไปด้วย “พี่ทองคงมีแรงทำงานอีกยาวเลยสิครับ ได้ทานของชอบ” ชายกลางกำลังหมายถึงอาหารเที่ยงที่ผมเพิ่งทานไป ซึ่งผมใช้บริการจาก Grab Food สั่ง ข้าวอบไก่สีฟ้า จากร้านสีฟ้า อาหารเมนูโปรดของผม
“มากๆเลย อิ่มแล้วก็อร่อยด้วย ชายกลางล่ะ วันนี้ทานอะไรไปบ้าง” ผมถามน้องชายกลับบ้าง “วันนี้ผมก็ทานซีเรียลไปตอนเช้าครับ แล้วก็นั่งอ่าน Kindle ของพี่ทอง แล้วนี่ก็เพิ่งจะได้กินกล้วยรองท้อง แล้วเดี๋ยวค่อยหาข้าวเที่ยงทานบ้างครับ
“ไปเปิดตู้เย็นแล้วหาอะไรทานเองได้เลยนะกลาง มีปลาสลิดที่เราชอบด้วย พี่อาจจะยุ่งๆหน่อยบ่ายนี้ พี่กำลังเริ่มทำงาน Line Sticker ชนิดขยับได้ จริงๆ จำได้ใช่มั้ยว่าพี่ก็ทำเสร็จไปแล้วส่วนหนึ่ง ตั้งแต่ก่อนบินไปเรียนที่ลอนดอนด้วยกัน” ผมถามน้องชายพลางนึกถึงโปรเจคที่ผมกะจะบอกเล่าประสบการณ์ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาซึ่งรู้สึกเหมือนหนังสักเรื่องที่ดูจบไปไม่นานเท่าไหร่ “เย้ๆ กลางรอดูนะครับ จำได้สิครับ มีของกลางเสร็จไปแล้วสองชิ้น พี่ทองต้องทำทั้งหมดกี่ลาย เสร็จไปแล้วเท่าไหร่ครับ”
“มีทั้งหมด 24 ลายครับกลาง เสร็จไปแล้ว 8 ชิ้น ตอนนี้พี่เพิ่งวางแผนจัดการจับคู่คำที่อยากจะทำกับพวกเรา 5 คนเรียบร้อยแล้ว ส่วนของกลางพี่ได้แรงบันดาลใจจากผมช่อของเรานั่นแหล่ะ” ชายกลางยิ้มเขินเมื่อผมพูดถึงสิ่งวิเศษที่อยู่บนหัวของเค้าที่ไม่เหมือนใครของตัวน้องชายคนนี้ “ผมอ่านบล็อกพี่ทองเมื่อวานอยู่ สรุปวันนี้พี่ทองเลยเริ่มภารกิจของวันด้วยสิ่งที่ต้องทำแน่นอนอย่างซักผ้า รดน้ำต้นไม้ แล้วก็ต่อด้วยสิ่งที่อยากทำก่อนเลยสินะครับ ดีแล้วครับพี่ทอง ทุกวันกลางตื่นมา หลังทานอาหารเช้า กลางก็วิ่งไปจับก่อนเลยสองอย่างครับ ไม่ Kindle ก็ที่ชาร์จ Kindle” ชายกลางพูดแล้วก็หัวเราะ “ก็หนังสือที่พี่ทองหอบมาจากลอนดอนผมก็อ่านหมดแล้วอ่ะครับ จริงๆมีหนังสือเป็นเล่มมาอีกก็คงดีไม่น้อยเลย กลางรอจะกลับไปหาห้องของเราไม่ไหวแล้วครับเนี่ย” ชายกลางบอก
ผมเลยเริ่มนึกถึงภารกิจของการเริ่มย้ายตัวออกจากสถานีกักตัวที่บ้านบางใหญ่เพื่อคืนสู่บ้านสาทร คอนโดที่ผมโตมาแต่เด็ก อย่างอดรนทนไม่ไหวเช่นกัน “พูดถึงหนังสือ…” “ติ๊งหน่อง” “พี่ทองครับ มีคนมาส่งของครับผม!” ผมได้ยินเสียงชายใหญ่ตะโกนออกมาไกลจากทางหน้าบ้าน พอดีชายใหญ่น่าจะกำลังทำความสะอาดพรมเช็ดเท้าที่ตากอยู่หน้าบ้าน ผมจึงรีบเดินออกไปรับของ
จะอวยพรให้ใครอายุยืนดีละครับเนี่ย ในเมื่อสิ่งที่ผมกำลังจะบอกน้องกลางก็เป็นจริงขึ้นมาซะได้ ผมเดินกลับเข้ามาที่ในบ้าน ค่อยๆย่องไปหาชายกลาง ซึ่งตอนนี้นั่งพินิจพิจารณาสติกเกอร์ชิ้นล่าสุดที่ผมวาดสำหรับใช้กับคำว่า ‘What are you doing?’ ซึ่งผมออกแบบไว้ให้เป็นเหล่าน้องๆไม้หัวโผล่หน้าออกมาจากพุ่มไม้แล้วก็ถามคำถามให้กับคนอ่าน ผมหันกล่องพัสดุหนังสือจากร้านหนังสือออนไลน์ Readery สิ่งที่ผมรอคอยมาเป็นอาทิตย์ แล้วหันเอาด้านที่มีคำโปรยเฉพาะตัวของร้านเค้าที่เขียนว่า Reading is Sexy ไปข้างหน้าตัว เพื่อโชว์ให้น้องกลางดู ก่อนจะกระซิบว่า “Hey sexy.” แล้วทันใดนั้น ชายกลางก็ปล่อยเสียงร้องไชโยเต็มเสียง กระโดดโลดเต้น เหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งได้ของขวัญชิ้นแรก “โอ้ยยย ไม่น่าเชื่อเลยพี่ทอง เพิ่งจะคุยกันแท้ๆ ว้าวๆๆๆ ในที่สุดเราก็จะได้อ่านหนังสือภาษาไทยกันแล้วครับ คิดถึงมากเลย!”
ผมกับชายกลางจึงจัดแจงช่วยกันแกะกล่องพัสดุ ผมจำได้ว่าผมสั่งหนังสือไปประมาณ 12 เล่ม แต่ก็จะรายละเอียดไม่ได้เท่าไหร่ว่าภายในมีอะไรบ้าง ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เปิดหนังสือภาษาไทยมาอ่าน เนื่องจากตอนที่ไปเรียนลอนดอนก็มีแค่หนังสือ ใจที่เธอกลัว ของเพม่า โชดรัน ซึ่งเป็นหนังสือแนวธรรมะจากภิกษุณีสายวชิรยานธิเบตชาวอเมริกัน ที่ผมพกไปด้วยเป็นภาษาไทยอยู่เพียงเล่มเดียว การที่ผมต้องเข้าห้องสมุดตอนที่เรียนที่โน่นบ่อยๆ ผนวกกับช่วงเร็วๆนี้ที่ผมเพิ่งคิดที่จะเอาจริงเอาจังกับงานเขียน ทำให้ผม (และน้องกลาง) เฝ้ารออย่างมากที่จะได้ลงมืออ่านหนังสือภาษาไทยอย่างจริงจัง
“โอ้ยๆๆๆ แค่เล่มบนสุดของสองตั้งนี้ก็ทำเอาผมเลือกที่จะเริ่มไม่ถูกแล้วครับ เล่มนี้สิทธารถะ หญิงเล็กต้องมายืมอ่านด้วยแน่ๆ แล้วก็เล่มนี้ กวีพูด รวม 10 เรื่องสั้น พี่ทองจะต้องเอาไปใช้เป็นไอเดียเขียนได้แน่ๆเลยครับ!” ชายกลางพูดกับผมราวกับเค้าจะลืมไปว่าผมนี่แหล่ะเป็นคนเลือกหนังสือเหล่านี้เองกับมือตอนสั่งซื้อ แต่ผมก็ปล่อยน้องชายได้พูด เพราะรู้ว่าเค้ากำลังมีความสุข ผมสังเกตเห็นหนังสือเล่มสีแดงเล่มหนึ่งซึ่งเดาได้ว่ามันคือเรื่องอะไร เลยทักให้ชายกลางลองแกะแค่ตั้งนั้นดูก่อน พอเค้าได้มองเห็นปกเท่านั้นละ
"ว้ากๆๆๆ มูมินนน” ชายกลางตะโกนเสียงดังลั่น จนผมต้องเงี่ยหูฟังว่าบ้านข้างๆด้านนอกจะส่งเสียงอะไรกลับมาหรือไม่ “ผู้เขียนและผู้วาดภาพประกอบ: ตูเว ยานซอน อ้าว นี่กลางอ่านชื่อเค้าผิดมาตลอดเลยตอนที่อ่านเล่มฉบับภาษาอังกฤษที่พี่ทองซื้อจากลอนดอน ผมนึกว่าชื่อเค้าอ่านว่า Tove เรื่องราวแสนสุขและบททดสอบมิตรภาพของมูมินโทรล กับ ครอบครัวตัวอวบ…” ทันใดนั้นเสียงของน้องชายผมก็ค่อยเงียบแผ่วลงราวกับกระทะร้อนที่ส่งเสียงฉ่าเวลาเราเทเอาวัตถุดิบที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ แล้วเสียงนั้นก็จะเงียบลงเมื่อผ่านไปสักระยะ ในตั้งเดียวกันนั้น ผมหยิบหนังสือแต่ละเล่มขึ้นมาชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นหนังสือของมูราคามิที่เห็นผ่านตาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้อ่านอย่างเล่ม ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย หรือในชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า ノルウェイの森 ( โนรุเวอิโนะโมริ) หนังสือที่เคยอ่านแล้ว แต่ผมอยากจะกลับมาทบทวนความรู้สึกและประสบการณ์อีกครั้งอย่าง ลางร้ายเริ่มปรากฎ หนังสือเล่มแรกในชุด อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย จนไปถึงหนังสือที่ผมก็เพิ่งจะเคยได้ยินตอนที่กำลังเลือกซื้อหนังสือจากทางร้าน อย่างเล่ม เด็กชายต้นไม้ ซึ่งได้รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 จากรางวัลแว่นแก้วด้วย และแล้วความหิวของผมก็ค่อยๆฟูกลับขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ใช่อาหารที่ตัวผมเรียกร้อง