เรื่องเล่าใต้ห้องนอน ตอนที่ 5: Cover Collab
เขียนเมื่อ 24 ก.พ. 64
"ครั้งนี้มาไวกว่าเดิมเยอะเลย" เขบ็ตหนึ่งชั้นพูดด้วยสายตาหยาดเยิ้มหลังจากเค้าเปิดดูสมาร์ทโฟนของตัวเองแล้วก็เห็นว่ามีไลค์ล่าสุดจากแฟนคลับเบอร์หนึ่งของเค้า น้องสาวเขบ็ตสองชั้นอดทำหน้าตาเอือมระอาไม่ได้ที่พี่ชายติดใจกับเรื่อแบบนี้งอมแงม
"ในฐานะของผู้จักการส่วนตัว น้องขอให้พี่ชายเลิกเอาใจไปผูกติดกับเรื่องแบบนี้ได้แล้วนะคะ" เขบ็ตสองชั้นบอกพี่ชายมาจากโต๊ะซึ่งตอนนี้เขียวกลางกับเขียวเข้มกำลังตื่นเต้นทดลองกดฟังก์ชั่นกลองชุดหลายๆชนิดที่โปรแกรมให้เลือกเล่นได้
"พี่ชายต้องไม่ลืมนะคะ เนื้องานมีความสำคัญเป็นอันดับแรก การมีแฟนคลับติดตาม ใช่ค่ะ มันเป็นเรื่องน่าขอบคุณมากๆ แต่ว่านั่นคือผลพลอยได้นะคะ" เขบ็ตสองชั้นบอกพี่ชาย ซึ่งตอนนี้ดูจะสีหน้าเปลี่ยนไปจากสักครู่นี้มาก
"แต่พี่ก็อดไม่ได้จริงๆที่จะรู้สึกมีความสุข ขอบใจน้องสาวมากนะที่ช่วยดึงสติพี่" เขบ็ตหนึ่งชั้นตอบน้องสาว แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องไปยังหน้าจอโทรศัพท์ คล้ายๆกับกำลังมองก้อนทองคำก็ไม่ปาน "เพลงต่อไปเราพูดเรื่องพรินเซสฮาร์ทกันดีไหมนะ" เขบ็ตหนึ่งชั้นเริ่มเปลี่ยนโหมดเข้าสู่โหมดฟุ้งเพื่อเริ่มหาไอเดียสำหรับเพลงต่อไป
เขบ็ตสองชั้นได้แต่ถอนหายใจเบาๆ เธอรู้ว่าการพูดจาตรงไปตรงมาของเธอมันอาจจะทำให้พี่ชายเธอต้องเสียใจ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะต้องคอยเตือนสติพี่ชาย "น้องแต่งได้หมดแหล่ะค่ะ พี่ชายแค่เล่ามาให้ฟังละกัน ว่าพรินเซสฮาร์ทของพี่ชายเค้าเป็นคนยังไง เค้าทำอะไรให้พี่ชายประทับใจเค้ามากมายได้ขนาดนี้บ้าง แต่มาเล่าให้ฟังตอนน้องเล่นเกมส์ชนะก็ดีนะคะ น้องอาจจะอารมณ์ดีกว่านี้หน่อย"
ถึงตอนนี้เขบ็ตหนึ่งชั้นถึงเริ่มจะหลุดจากภวังค์ยอดไลค์ เขบ็ตหนึ่งชั้นรู้สึกขอบคุณตลอด ที่มีน้องสาวเขบ็ตแฝดน้องช่วยทำหน้าที่หลายๆอย่างที่ตัวเค้าเองรู้ดีว่าคงทำเองได้ไม่ดี อะไรที่มันเกี่ยวข้องกับการจัดการทั้งหลาย เธอคงเป็นเสหมือนพี่ชายใหญ่ของบ้านไม้หัว แต่อาจจะมีอารมณ์ง้องอนมากกว่าหน่อย
"พี่ขอโทษทีนะ ลืมตัวอีกแล้ว การยอมรับจากคนอื่นนี่มันน่าดึงดูดเสียเหลือเกินจริงๆ" เขบ็ตหนึ่งชั้นยอมรับกับน้องสาว ตอนนี้เธอเดินไปนั่งพักที่มุมห้องแล้ว พร้อมกับเริ่มหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเปิดเกมส์เล่น
"ขอโทษนะครับ ตะกี้เหมือนคุณทั้งสองให้คอมเมนต์ไว้เกี่ยวกับเพลงที่พวกเราแต่งแล้วก็ร้องกัน จริงๆวันนี้เรากะจะแค่ร้องเพลงคัฟเวอร์ แต่ว่าเวลายังเหลือ ก็เลยลองเอาเพลงที่เพิ่งแต่งกันได้ไม่นานมาร้องกันต่อ คุณว่ายังฟังไม่ค่อยเข้าใจเหรอครับ" เควเวอร์ เขบ็ตหนึ่งชั้นใจดีสู้เสือ ถามเหล่าเทียนเขียวกลางแล้วก็เขียวเข้ม ซึ่งตอนนี้เปิดโปรแกรมเล่นไปถึงเสียงปรบมือแล้ว
"สวัสดีครับ ผมชื่อเขียมเข้ม แล้วทางนี้ก็คือเขียวกลาง ส่วนตัวผมคิดว่าค้างคาวมันไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับการค้างคาใจอะไรตรงไหนเลยครับ" เขียวเข้มพูดด้วยเสียงเข้มเช่นเคย
"มันก็เป็นเรื่องของการเล่นคำน่ะครับ ค้าง คาว กับ ค้าง คา ยังไงล่ะครับ บางทีเนื้อความมันอาจจะไม่ได้แปลความหมายได้ตรงร้อยเปอร์เซนต์ แต่พวกเราก็คือว่ามู้ดโดยรวมของเพลงมันก็คือส่วนหนึ่งของอรรถรสเหมือนกัน ทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่ง เควเวอร์ พยายามเต็มที่ นึกถึงคลาสหายใจของหญิงเล็ก แล้วก็พยายามดึงสติไม่ให้จิตใจต้องตกไปโกรธหรือว่าเสียใจไปมากกว่านี้ ในขณะที่เขียวเข้มนั้น ไม่ได้คิดอะไรเลยนอกเสียจากความพยายามปะติดปะต่อหาเหตุผลว่าการที่คำว่าค้างถูกใช้สองครั้ง มันจะช่วยให้เพลงเพราะขึ้นได้ยังไง
"ผมได้ยินเสียงเชลโล่ด้วยนะครับ ตอนระหว่างที่เดินทางตามหาห้องนี้กัน แต่เหมือนในเดโม่สักครู่นี้ไม่มีนี่ครับ" เขียวกลางทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยให้กับทั้งสองด้วยการยกเรื่องใหม่ขึ้นมาเปลี่ยนเรื่อง เพื่อลดบรรยากาศกระอักกระอ่วนนี้ไปเสีย เขียวกลางก็เหมือนคนกลางน่ะนะครับ เค้าช่วยไกล่เกลี่ยประจำเวลาที่พี่ชายโดยตรงของเค้าทะเลาะกับน้ำเงิน พี่ชายของกลุ่มเหล่าเทียนน้ำเงินแดงเหลือง เค้าก็ไม่เข้าใจว่าคนเป็นพี่นี่จะต้องมีความอยากชนะอยู่เหมือนกันหรือยังไง
"ออ อันนั้นเป็นเพลงคัฟเวอร์ค่ะ" คราวนี้เซมิเควเวอร์ เขบ็ตสองชั้นแฝดน้องเริ่มคลายอารมณ์ลงบ้างหลังจากเธอเล่นเกมส์ไปได้พักหนึ่ง ช่วงนี้เธอกำลังติดเกมส์ทำนายรักจากลายปลาคาร์พ เขบ็ตหนึ่งชั้นพยายามหาโอกาสหลายครั้งที่จะฟังเรื่องราวชีวิตรักของเธอ แต่ก็ไม่เคยสำเร็จเสียทีเพราะเรื่องนี้เธอเก็บเป็นความลับมาก เค้าก็ต้องคอยตีความเอาเวลาเธอช่วยแต่งเพลงเนี่ยแหล่ะครับ ว่าจริงๆแล้วมีส่วนที่มาจากชีวิตจริงของน้องสาวเค้าอยู่บ้างหรือเปล่า
"เพลงคัฟเวอร์ น่าสนใจจังเลยครับ" คราวนี้เป็นเขียวใหญ่ที่ส่งเสียงออกมา ทำลายบรรยากาศมาคุเสียหมด "ขอเราทั้งสองลองบ้างได้ไหมครับ" เขบ็ตสองชั้นเห็นว่าปลาคาร์ฟตัวล่าสุดที่ว่ายในบ่อของเธอมีลายที่ดูไม่น่าจะให้ความหมายที่ดี เลยรู้สึกไม่ค่อยมีอารมณ์ในการเล่นเท่าไหร่ เลยคิดว่ามาลองทำเพลงให้สีเทียนก็น่าสนใจไม่เบา
"งั้นเรามาลองทำเพลงด้วยกันไหมล่ะคะ พี่เขบ็ตจะได้ฝึกซ้อมดนตรีไปด้วยพร้อมๆกัน" เขบ็ตสองชั้นเอ่ยขึ้น
ด้วยความที่อยากจะเอาใจน้องสาวคืนบ้าง เขบ็ตชั้นเดียวเลยตอบตกลงที่จะร่วมร้องเพลงในทันที
"แถวนี้มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าไหมครับ พวกเราจะขอเวลาส่วนตัวสักครู่ก่อนเริ่มร้องครับ" เขียวเข้มถามขึ้นมา สองเขบ็ตทำหน้าฉงน แล้วก็บอกว่า สามารถเข้าไปในห้องอัดด้านในที่มีเครื่องดนตรีได้ พวกเค้ามองไม่เห็นหรอกจากส่วนที่นั่งด้านนี้ แล้วทั้งสองก็กลิ้งหลุนๆๆตามกันเข้าไปล่วงหน้าก่อนการเล่นเพลงจะเริ่มขึ้น