หญิงใหญ่-บอนไซซัง ตอนที่ 2 : คุณมันเทศ

IMG_4294.JPG

“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นวันที่ 6 มิถุนายน 2561 สินะครับ” ชายกลางพ่นควันออกมาจากปล่องหัวของเค้า ประกอบคือเป็นรูปร่างของปฎิทิน เค้าชอบที่จะนึกภาพช่วงเวลาโดยอ้างอิงกับเวลาอื่นๆ เพื่อให้เห็นภาพ เช่นกรณีนี้ เค้าก็จะคิดว่าเป็นช่วงเวลากลางปี ซึ่งน่าจะเป็นช่วงฤดูร้อน

 

“เล็กจำได้คะ เพราะว่าเล็กเป็นคนบอกพี่ใหญ่เองว่าลองออกท่องเที่ยวไหม เพราะว่านั่นเป็นสิ่งที่พี่ใหญ่รักที่จะทำคะ ตอนนั้นที่พี่ใหญ่เข้ามาปรึกษาว่า ทำไมถึงเริ่มรู้สึกใช้ชีวิตไม่สนุกอย่างเก่า ขนาดลองเปลี่ยนกิจกรรมไปเรื่อยๆแล้วก็ตาม” หญิงเล็กพูดเสริมขึ้น

 

“ใช่แล้ว พี่เลยไปปรึกษาพี่ทอง แล้วพี่ทองก็แนะนำให้ลองขึ้นรถไฟไปเชียงใหม่ มันฟังดูน่าตื่นเต้นมาก จนถึงตอนนั้นที่ผ่านมาที่พี่ไปเที่ยวไกลสุดก็ยังเป็นสวนสาธารณะอยู่ สวนเบญบ้าง สวนลุมบ้าง สวนรถไฟบ้าง ต้องเกลี้ยกล่อมพี่ทองตั้งนาน บอกว่าต้องปล่อยให้พี่เดินทางด้วยตัวเองได้แล้ว ไม่งั้นก็จะไม่เติบโตเสียที”

 

ชายเล็กขำคิกคักเมื่อหนอนน้อยทำท่าประกอบการเล่าเรื่องของหญิงใหญ่ เป็นตัวเงินตัวเทอง คลานต้วมเตี้ยมไปมา เพื่อเธอพูดถึงสวนลุม

 

“แล้วตอนนั่งรถไฟเป็นยังไงบ้างครับ ได้หลับไหมครับ ถ้ากลางได้นั่ง คงจะได้เกากีตาร์แต่งเพลงไปด้วยแน่ๆ” ชายกลางถามบ้าง จังหวะนี้ดูเหมือนชายกลางจะตื่นเต้นไปกับการเดินทางไปเชียงใหม่มากกว่าจะรอฟังเรื่องราวความรักของพี่สาวซะแล้ว ก็แน่ล่ะครับ ต้นไม้ต้นกลางต้นนี้ส่วนมากจะได้ท่องไปในความคิดมากกว่าท่องโลกจริงๆ  ถ้าเป็นหญิงเล็ก น้องสาวต้นเล็กของบ้าน ก็จะมีหมายูนิคอร์นพาบินไปโน่นมานี่บ้าง หรือบางทีถ้าหมาของเธอไม่อยู่ เธอก็มุดดินเองเสียเลย ไปเยี่ยมนาวาฬคอร์นบ้าง ฟินิกส์คอร์นบ้าง ถ้าเป็นชายเล็ก น้องชายต้นสุดท้องของบ้านก็จะอยู่ติดบ้านครับ ดูแลสวน คุยกับเพื่อนสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยทั้งวัน แล้วก็ถ้าเป็นชายใหญ่ พี่ชายต้นโตสุด ซี่งไม่ได้มาร่วมวงชมดอกไม้ถึงป่าวันอาทิตย์ ก็ไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวไหนไกลล่ะมั้งครับ ในเมื่อพี่เค้ามีวิชาสร้างโลกของเค้าอยู่ใต้ดินห้องพี่ทอง

 

“พี่ก็ต้องตื่นเต้นแน่นอนสิจ๊ะกลาง พี่ก็เหมือนเรานั่นแหล่ะ ตื่นเต้นกับอะไรใหม่ๆ วันนั้นเป็นเช้าวันธรรมดานะ ถ้าพี่จำไม่ผิด พี่ทองไปส่งพี่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง นั่งรอรถไฟกันที่ชานชาลา เป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นด้วย กลัวด้วย แต่ถึงกลัวก็ต้องทำ เพราะว่าตอนนั้นพี่ตันแล้วจริงๆ จำได้ว่าลองคอร์สออนไลน์ไปหลายคอร์ส เรียนภาษาจีน ฝรั่งเศส เพิ่มเติม เรียนทำอาหารจากสูตรคุณพี่ยี่หร่า ไปออกกำลังกายท่าใหม่ๆกับเพื่อนที่สวนลุม แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่ตอบโจทย์ตัวเอง ก็เลยต้องออกเดินทางนี่แหล่ะ”

 

“มีเรื่องตลกของพี่ทองมาเล่าให้ฟังไหมครับระหว่างที่รอรถไฟ” จงหอยยูงคองแทรกขึ้นมาในจังหวะที่หญิงใหญ่กำลังพูดจบพอดี มือก็ปอกกล้วยลูกใหม่ไปด้วย ทุกต้นก็ตกใจนึกว่ากล้วยที่แบกมาตรงหนวดปีกจะหมดไปแล้ว ถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านอาจจะยังสงสัยว่าจงหอยยูงคองเค้าคือใคร เค้าก็เหมือนกับอีกหลายชีวิตที่เราเจอในชีวิตจริงน่ะล่ะครับ ที่เราก็ไม่ทราบได้แน่ชัดว่าที่มาเค้าคือยังไง จนกว่าจะได้คุยกันรู้จักกันดีพอ แต่ผมจะให้ก่อนได้ครับว่าจริงๆแล้วจงหอยยูงคองก็เกิดมาจากน้ำลายยูนิคอร์น ไม่ต่างจากเหล่าเทียน แมวเหมดเลยครับ อาจจะต่างที่ว่าตอนนั้นพี่ทองกับหญิงเล็กเล่นปั้นดินกันครับ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ ปั้นดินตามโจทย์ของสัตว์หลายๆชนิด ซึ่งประกอบไปด้วย งูจงอาง หอยเม่น นกยูง แล้วก็คิงคองครับ

 

"555 ก็มีสิจ๊ะ ตามปกติพี่ทองนั่นแหล่ะ ไม่มีอะไรมากแค่เดินซื้อไก่ทอดแล้วก็สะดุดกระเป๋าฝรั่งที่นั่งแถวนั้นหกหมดเลย ทำเอาพี่ที่นั่งอยู่บนบ่ากระเด็นไปไกลเกือบโดนคุณป้าที่กำลังคุยกับเพื่อนออกรสเหยียบเอา ดีที่พี่แม่บ้านใจดีแถวนั้นไม่ตกใจตอนเจอพี่เลยเก็บพี่ไปคืนพี่ทอง ตอนนั้นพี่ทองวุ่นวายมาก เพราะก็รู้พี่ทองเหมือนจะมีอาการย้ำคิดย้ำทำใช่มั้ยล่ะ เอาแต่พะวงเก็บเศษไก่ทอดที่ตกกระจายตามพื้น กลัวจะไปเลอะเทอะกระเป๋านักเดินทางหรือเปล่า

 

มาถึงตรงนี้สมเสร็จก็ส่งเสียงครากขึ้นมาจากท้อง "ส่วนการเดินทางรถไฟ พี่ใหญ่ว่าพี่ใหญ่อาจจะมาเล่าวันหลังดีกว่า นี่สมเสร็จก็หิวแล้ว พี่ใหญ่คงใช้เวลาอีกไม่นาน เล่าเรื่องความรักเลยดีกว่า พี่ใหญ่ก็แค่อยากเล่าไว้ให้เป็นประสบการณ์นะ เผื่อว่าพวกเราฟังแล้วก็ได้ไอเดียไปทำอะไร หญิงเล็กอาจจะเอาไปวาดรูปต่อได้ ชายกลางอาจจะเอาไปแต่งหนังสือ หรือไม่ก็แต่งกลอนไฮคุที่พี่ใหญ่เพิ่งสอนไป หรือว่า ชายเล็กอาจจะเอาไปคุยกับต้นไม้ หรือว่าสร้างต้นไม้ในฝันขึ้นมาก็ได้นะจ๊ะ แต่ก็ต้องให้สมเสร็จอิ่มก่อนด้วย

 

ทุกๆต้นเริ่มกลับมาโฟกัสที่พี่หญิงใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่เริ่มจะฝันไปถึงการเดินทางบนรถไฟกันไปหมดแล้ว มีเสียงก่อสร้างจากข้างนอกดังเข้ามารบกวนเป็นระยะๆ ก็แน่ล่ะนะครับ สวนหย่อมระเบียงดอกไม้อยู่ในซอกหลืบคอนโดใจกลางกรุงเทพ ก็จะมีความวุ่นวายหลุดเข้ามาเป็นระยะๆแบบนี้ อีกไม่นานไม่สมเสร็จก็หญิงเล็กคงหาวิธีทำให้เสียงตรงนี้หายไป

 

เรื่องก็เกิดวันที่พี่ไปกินไก่ทอดที่ร้านไก่ทอดเที่ยงคืนที่เชียงใหม่นี่แหล่ะจ้ะ จริงๆพี่ทองเล่าให้ฟังว่าเวลาพี่ทองไปก็จะแวะกินร้านไก่ทอดเจ้าดังที่ไปประจำอยู่สามร้านได้ มีไก่ทอดเที่ยงคืน ไก่ทอดสปัน แล้วก็ร้านไก่ย่างหนังกรอบแถวถนนนิมมานต์ ตอนนั้นที่พี่ไป พี่ไปหาที่พักที่เป็นโฮสเทลสำหรับมนุษย์ต้นไม้​โดยเฉพาะ พี่ก็ตามหาผ่านกรุ๊ปเฟสบุคเนี่ยแหล่ะ แล้วก็ไปได้ที่พักอยู่ใกล้ๆกับร้านหนังสือ booksmith จำหนังสือปรัชญาเล่มนั่นที่ว่าด้วยชีวิตกับตัวอักษรได้ไหมจ๊ะชายกลาง พี่ก็ไปซื้อมาจากร้านนี้นี่แหล่ะจ้ะ เค้าลดให้ด้วยนะ บอกว่าเห็นเป็นต้นไม้ เลยไม่อยากคิดแพง เพราะหนังสือก็ทำมาจากกระดาษ ซึ่งก็มาจากต้นไม้

 

คืนนั้นน่าจะเป็นคืนแรกๆเลยที่พี่ไปลองกินไก่ทอด พี่ก็ไปกับเพื่อนใหม่นี่แหล่ะจ้ะ คุณมันเทศพาไป คุณมันเทศเค้าเป็นมัคคุเทศก์ด้วยนะ ทำงานที่เชียงใหม่มาหลายปี ก่อนหน้านั้นเคยทำงานที่กาญจนบุรี พาคนไปเที่ยวชมเขื่อน แต่ก็บอกว่า อยากขึ้นเหนือ เพราะจริงๆเค้าติดใจอาหารเหนือ ชอบกินข้าวหมกไก่มาก ตอนแรกพี่ก็ขี้ลืมเหมือนเคย ไปยืนงงในดงไม้หัวตั้งนานที่ล็อบบี้ ทำเค้าวุ่นวายไปหมด เพราะทุกต้นนั่งไล่ชื่อร้านไก่ที่ตัวเองเคยไปกิน ส่งเสียงกันเจี๊ยวจ๊าวเลย ร้านไก่ทอดยาหยี ร้านไก่ทอดหนังสวรรค์ ร้านไก่ทอดน้ำมันวิเศษ ร้านไก่ทอดร้านไก่ร้านเป็ด ร้านไก่ทอดชาววัง ร้านไก่ทอดน้ำมันงาขาว ร้านไก่ทอดสอดไส้งาดำ จนกระทั่งได้คุณมันเทศนี่แหล่ะ ตะโกนมาจากบริเวณที่เล่นเปียโนว่า ร้านไก่ทอดเที่ยงคืนรึเปล่า พี่ใหญ่เลย ใช่ค่าาาาาาาาา เสียงดังกลับไป จนไม้หัวที่เป็น reception รู้เอาว่าพี่ชอบร้องเพลง ชายกลางกับสมเสร็จขยันขันแข็งจดรายชื่อร้านไก่ทอดที่ได้ยินกันยกใหญ่  

Previous
Previous

หญิงใหญ่ - บอนไซซัง ตอนที่ 5 : การแสดงตัว