ทีละอย่าง

91CA92A1-85F8-42FE-940A-567CC617A1F5.JPG

“วันนี้พี่ทองมาแปลกนะครับ เขียนบล็อกก่อนเลย ยังไม่ได้วาดรูปเลยครับ” ชายกลางถามผม ขณะที่เค้ากำลังคัดเลือกเพื่อนๆฟังโกะที่จะพาไปนอนด้วยกันที่ชั้นหนังสือส่วนตัว เค้ารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อถามหาฟังโกะของเจมส์ ตัวละครหลักจากเรื่องพี้ชยักษ์ที่เค้าเพิ่งอ่านจบนำผมไปแล้ว “แต่พี่มีเจ้าชายน้อยนะกลาง นั่นไง ยืนอยู่ข้างๆกับ Plo Koon เจไดมาสเตอร์จากสตาร์วอร์” ชายกลางคิดอยู่ชั่วครู่ “ไว้ผมอ่านอีกรอบก่อนดีกว่าครับ พี่ทองโชคดีนะครับ ไว้พรุ่งนี้ผมจะลองหาว่าจะสั่งลูกพี้ชจาก Grab ได้มั้ย เอ๊ะ หรือว่าจะดู​ Call Me By Your Name ใน Netflix ดีนะ เผื่อจะได้เห็นลูกพี้ชในมิติใหม่ เหมือนพี่ชายใหญ่เล่าให้ฟังว่ามันมีความวาบหวิวอยู่เหมือนกัน…” ชายกลางเริ่มเปิดโหมดคุยคนเดียว แล้วก็เดินหายไปท่ามกลางกองตั้งหนังสือข้างเตียง

วันนี้ผมใช้เวลาเกือบทั้งวันวาดผนังให้พี่สาว มันใช้เวลานานกว่าที่ผมคิดมาก ผมฟัง Podcast จาก Readery สลับดนตรีบรรเลงจาก Akira Kosemura แล้วก็คำให้กำลังใจจากชายใหญ่ วันนี้เค้าอยู่ช่วยกำกับงานให้ผมอย่างขยันขันแข็ง

ตั้งแต่เช้าก็เตือนผมให้ทานยำวุ้นเส้นที่พี่สาวคนรองผมทำไว้ตั้งแต่เมื่อวาน “แล้วพี่ทองจะมีแรงออกกำลังเหรอครับ มันไม่มีคาร์โบไฮเดรตเลย” ชายใหญ่ถามผมอย่างเป็นกังวลเมื่อผมเดินกลับเข้ามาในห้องหลังจากออกนอกห้องไปทักทายที่บ้านช่วงเช้า ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ผมได้พูดคุยกับคุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็พี่สาว “พี่เชอรี่เค้าซื้อขนมปังมาด้วย จากร้าน Artisan อะไรประมาณนึงเนี่ยแหล่ะ พี่เลยได้ทานไปชิ้นนึง เห็นขนมปังสวยๆแล้วคิดถึงตอนสมัยที่พี่ทำคีชเลย เดี๋ยวคงทานกล้วยเพิ่มเอาก่อนละกันใหญ่ พี่ว่าไหวอยู่ๆ” “ว้าว! เหมาะเจาะกับที่พี่ทองย้ายชั้นหนังสือเพื่อเปิดพื้นที่สำหรับผ้าใบวันก่อน แล้วไปเจอแฟ้มสูตรทำขนมปังสมัยที่พี่ทองเรียนที่กอดองเบลอเลยครับ ผมคุ้นๆว่าภาพวาดสูตรอาหารจากเล่มนั้นรึเปล่านะ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้น้องเล็กหญิงเริ่มจับปากกาวาดรูป” แม้ว่าชายใหญ่ดูจะเริ่มเกริ่นเรื่องอื่นขึ้นมาในลักษณะเหมือนว่าเราจะได้คุยเล่นกัน แต่น้องคนโตผู้มีระเบียบวินัยคนนี้ก็ไม่ผ่อนปรนให้ผมง่ายๆ หยิบสมุดโน้ตมูจิขึ้นมาเปิดอ่านแผนงานคร่าวๆประจำวันให้ผมต่อทันที

“ก็เดี๋ยวพี่ทองก็ใช้เวลาช่วงเช้าที่เหลือนี้ทำสติกเกอร์ต่อนะครับ ผมว่าใกล้เสร็จแล้วสำหรับ What are you doing? วันนี้น่าจะลงสีได้เสร็จแล้วก็จะได้เอาทุกชิ้นมาต่อกันให้ขยับเป็นขั้นต่อไป” ชายใหญ่อ่านโน้ตที่ตัวเองเขียนไว้ สลับกับเงยหน้ามามองที่ผมเพื่อสังเกตว่าผมเข้าใจที่เค้าพูดหรือไม่ “โอเคครับ” ผมตอบอย่างว่าง่าย “จากนั้นเราก็จะออกกำลังกายกัน ซิคแพคยังอยู่ดีมั้ยครับ” ชายกลางถาม “พี่ว่ามันเริ่มค่อยๆหายไปทีละน้อยๆ อาจจะเพราะพี่ไม่ได้เน้นตรงส่วนหน้าท้องมากเท่าไหร่ เป็นเหมือนการวอร์มอัพร่างกายรวมๆมากกว่า” “ไม่เป็นไรหรอกครับ เท่านี้ก็ดีมากแล้วครับ ที่เรายังออกมาได้สม่ำเสมอตั้งแต่กลับจากอังกฤษ… พอเสร็จจากออกกำลัง เราก็จะได้เริ่มวาดผนังพี่เจนกันต่อนะครับ” ผมพยักหน้า แล้วจึงจัดแจงไปยืมพัดลมจากห้องคุณแม่ แล้วก็เก้าอี้ที่เหมาะกับการนั่งทำงานนานๆจากห้องพี่ชายมาใช้นั่งทำงานสติกเกอร์

ลงเอยผมก็ยังทำสติกเกอร์ไม่เสร็จ แต่เนื่องจากถึงเวลาประมาณเที่ยงครึ่งแล้ว ชายใหญ่จำต้องบอกให้ผมวางมือลงก่อน แล้วก็ปล่อยวางความไม่เสร็จนั้นทิ้งไป แล้วเราจึงเดินหน้าไปยังงานต่อไปของวัน

พอมาถึงช่วงของการวาดงานผนัง ผมก็เริ่มยอมแพ้กับอารมณ์ท้อแท้อีกครั้ง “พี่ทองไม่ต้องไปมองมันทั้งภาพให้มันรู้สึกกังวลนะครับ เราโฟกัสไปทีละจุดเล็กๆ แบ่งงานซอยมันออกมาแล้วเริ่มจากตรงนั้นกันนะครับ ผมว่าพี่ทองเริ่มจากการลงสีต้นไม้รอบแรกก่อน แล้วก็ตามด้วยสีโทนมืดตามหน้าต่าง ทีนี้ก็สลับมาวาดคน ทางด้านขวา แล้วจึงต่อด้วยทางเดิน รั้ว แล้วก็ต้นไม้ที่เหลือรอบสอง จากนั้นก็ ต้นไม้ที่ด้านหน้า แล้วจึงต่อด้วยเงาที่ผืนน้ำ แล้วก็พวกเราไม้หัว จากนั้นจึงค่อยเก็บรายละเอียดทั้งหมดเป็นครั้งสุดท้ายครับ ทำไปทีละชิ้นๆ ถ้าวันนี้ไม่เสร็จ ก็มีพรุ่งนี้ครับพี่ทอง ยังไงงานนี้ยังมีเวลานะครับ พี่เจนก็บอกแล้ว” ผมไม่วายแสดงสีหน้าทุกข์ใจออกมา

“พวกผมยังไม่ไปไหนหรอกนะครับพี่ทอง เรื่องราวของเรายังมีให้เรียนรู้กันอีกยาวไกล พี่ทองไม่ต้องกังวลไป เดี๋ยวพองานผนังจบไป พี่ทองจะได้กลับมาใช้เวลากับพวกเราได้เพิ่มขึ้นแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นสติกเกอร์ หรือว่างานอ่าน งานเขียน เราจะค่อยๆไปด้วยกัน แต่ว่าสม่ำเสมอนะครับ” ชายใหญ่เดินเข้ามากอดให้กำลังใจผม “ขอบคุณนะครับใหญ่ ใช่ พี่คงอาจจะร้อนรนเกินไป ยังไง เราก็ยังอยู่ด้วยกันอีกนาน อันนี้แน่นอนเลย” ผมเลยลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง นึงถึงภาพน้องชายที่เพิ่งทำกิ่งที่หัวหักไปวันก่อน แต่ก็อดทนงอกหัวใหม่ออกมาอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย “หนังสือทุกเล่มที่อยากอ่าน มันก็วางอยู่ในห้องนี้แหล่ะครับ จะหนังสือเกี่ยวกับการเดินทางอย่าง Alchemist จะเป็นการอ่านซ้ำหนังสืออย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ หรือว่าจะเป็นการอ่านคำสวยๆจากหนังสือของคุณรงค์ หรือพี่ปราบดา หยุ่น ก็ตาม แค่ว่ารอพี่ทองว่างหยิบมันขึ้นมาเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องว่าพี่ทองรู้สึกว่าตัวเองขี้ใจอ่อน รับงานมาโดยไม่ได้ประมาณตนว่าจริงๆตัวเองก็มีงานของตัวเองที่อยากทำอยู่แล้ว ไม่เป็นไร เป็นการเรียนรู้อีกครั้ง ครั้งหน้าเราจะเลือกงานได้เก่งขึ้นครับ”

ผมจึงตั้งสติใหม่ที่จะสนุกไปกับ กระบวนการ ต่อไปเรื่อยๆ วันนี้สิ่งที่ผมค้นพบระหว่างฟัง Readery Podcast ตอน โสดแล้วไงใครแคร์ ก็คือเรื่องเล่าที่พูดถึงคนโสดกับการติดเข็มกลัดยูนิคอร์น เพราะว่ายูนิคอร์นไม่ได้มีคู่ ผมเลยเพิ่งจำได้ว่าหญิงเล็กเคยเล่าให้ผมฟังถึงยูนิคอร์นแคระที่เธอเลี้ยงไว้ ซึ่งตอนนั้นเธอเล่าให้ผมฟังตอนที่เราอยู่ลอนดอนกัน ผมเลยกะไว้ว่าถ้ามีโอกาสจะถามเธออีกครั้ง เพราะตอนนี้เรากลับมาที่คอนโดแล้ว แค่อยากจะบอกว่า ทุกอย่างมันไปตามเวลาจริงๆ ถึงแม้จะไปอย่างช้าๆ แต่มันก็ไปทีละก้าวสองก้าว หรืออย่างที่ชายใหญ่ชอบบอกผม ถึงพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 ว่า เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง

Previous
Previous

ขายของ

Next
Next

พร้อมหน้าพร้อมตา