มังคุดยักษ์

55B10EAA-BB01-4492-94A0-EB9AD6504888.jpeg

“โอ้ยยย น่ารักที่สุด” ผมตื่นมาพบกับรูปวาดมังคุดบิน วางพาดอยู่บนขาตั้งวาดรูปที่มุมห้องใกล้กับชั้นหนังสือรังผึ้ง บริเวณที่ผมใช้นั่งทำงานตอนกลางวัน สังเกตจากลักษณะของความแอ็บแสร็คของรูปร่างและสีมังคุด รวมไปถึงม้ายูนิคอร์นที่ดูท่าว่ากำลังทำหน้าที่เป็นสารถี บินหิ้วมังคุดยักษ์ ซึ่งมีผมแล้วก็น้องๆเกาะอยู่ข้างๆ ขึ้นไปจากคอนโดผม ที่หัวมุมของภาพ ผมรู้ทันทีว่าหญิงเล็กต้องเป็นศิลปินสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้แน่นอน ผมรอให้หญิงเล็กทำวัตรเช้าเสร็จเสียก่อนแล้วจึงเข้าไปสอบถามถึงที่มาที่ไป

"มันยังไงกันครับเนี่ยเล็กหญิง เราวาดภาพนี้ใช่มั้ย นี่เราได้แรงบันดาลใจมากจากเรื่องพี้ชยักษ์ใช่มั้ยเนี่ย” ผมทายถึงที่มาของภาพแล้วก็ถามน้องสาวต้นเล็กซึ่งตอนนี้กำลังค่อยๆใช้ผมใบไม้ ที่มีลักษณะเหมือนจะหลุดไม่หลุดแหล่ซึ่งพาดอยู่ที่ศีรษะของเธอ บินลดระดับลงมาจากชั้นวางของริมห้องชั้นบนสุด ซึ่งเป็นเสมือนห้องส่วนตัวของเธอ (จะให้บอกว่าห้องก็คงไม่ถูกเพราะว่ามันเป็นพื้นที่เปิด) เธอบินลงมาจอดยังโซฟาสีน้ำตาลเทาที่ตั้งอยู่ด้านล่าง แล้วก็ยิ้มแฉ่งเป็นการทักทายยามเช้า

“ใช่แล้วคะ พวกเราตั้งใจเซอร์ไพรส์พี่ทอง เนื่องในโอกาสที่พี่ทองทลายกองดอง อ่านพี้ชยักษ์ จบไปเป็นเล่มที่ 2 เก่งมากคะ” หญิงเล็กอธิบาย ไม้หัวแต่ละต้นค่อยๆทยอยโผล่หัว (และตัวด้วย)​ ออกมาจากพื้นที่ส่วนตัว (ไม่ใช่ส่วนหัว) ชายเล็กค่อยๆดันประตูกระจกเปิด มีน้องหนอนพาดอยู่ที่บ่า มองไกลๆอาจจะนึกว่าเป็นดังโงะชาเขียวอันจิ๋ว น้องหนอนยังคงมีสีหน้าสะลึมสะลือ สงสัยเมื่อคืนคงดูดาวเพลิน ทางชั้นหนังสือสีขาว ซึ่งตั้งอยู่สามชั้นทางด้านขวาของเตียงนอนของผม ชายกลางส่งเสียงกุกๆกักๆ ผมละก็ลุ้นว่าวันนี้เค้าจะหยิบเอาตุ๊กตาฟังโกะตัวไหนออกมาเล่นด้วย หันไปมองก็เห็นเป็นหนูน้อยเควิน พระเอกตัวน้อยจากภาพยนตร์เรื่อง Home Alone สงสัยจริงๆว่าเค้าจะพาเควินอ่านหนังสือเล่มไหนบ่ายนี้ วันนี้ชายกลางตื่นมาแบบผู้กล้า (บางวันก็จะตื่นมาแบบผู้กลัว ขึ้นอยู่กับว่าวันก่อนเค้าอ่านหนังสืออะไรไป) ทะยานตัวลงมาจากชั้นที่ห้าจากหกของชั้นหนังสือ ไปที่โคมไฟรูปไม้ขีดไฟของผม ซึ่งพาดอยู่ที่หัวมุม แล้วก็ไถลตัวลงมามาที่พื้นห้อง (ส่วนเควินซ่ายิ่งกว่า ดิ่งเวหาลงมาบนเตียงนอนก่อนหน้า)

แค่เช้านี้ที่ตื่นมาเจอน้องๆไม้หัว ผมก็รู้สึกว่าตัวเองได้รางวัลสุดๆแล้ว กับการอ่านหนังสือจบซักหนึ่งเล่ม ‘กร๊อบ กร๊อบ’ เสียงบิดขี้เกียจของชายใหญ่ พี่ชายต้นโต ดังมาจากที่ซ่อนตัว (ซึ่งคงไม่เรียกซ่อนแล้วเนื่องจากผมรู้แล้วว่าเค้านอนที่ไหน) ซึ่งอยู่ในลิ้นชักด้านล่างทีวี ลิ้นชักดีดตัวออกไม่นานหลังจากเสียงดังกล่าวเงียบลง ชายใหญ่จัดเรียงแผ่นกระดาษโน้ตเปียโนซึ่งถูกจัดเก็บอยู่ในลิ้นชักนั้นให้เรียบร้อย ใช้มือตบๆให้กระดาษทุกแผ่นเรียงต่อกันอย่างแนบสนิท แล้วจึงดันลิ้นชักปิด เค้าเดินผ่านกองขยะสิ่งของที่ผมหอบกลับมาจากบ้านบางใหญ่ ซึ่งยังคงผัดผ่อนไม่ยอมสะสางเสียที ผมนับถือในความอดทนของเค้ามาก เพราะรู้ดีว่าน้องต้นนี้เจ้าระเบียบขนาดไหน

แล้วก็ถึงคราวของเจ้าหญิงนิทราฉายามวยมหาเสน่ห์ พี่หญิงใหญ่ ซึ่งที่พักเค้าอยู่โน่นครับ เกือบจะออกจากห้องผมแล้ว ที่ในตู้เสื้อผ้า นี่ตั้งแต่วันที่ชายใหญ่ช่วยทำการชำระความสะอาด จัดตู้เสื้อผ้าใหม่ด้วยวิธีการพับผ้าและเก็บผ้าแบบมาริเอะ คอนโดะนี่ พี่สาวต้นโตของบ้านก็ยิ่งดูจะเก็บตัวเป็นพิเศษ เดาไม่ผิดเมื่อคืนก็คงยืมไอแพ็ดผมไปเล่นสมูลกับแก๊งร้องเพลงแก๊งยี่หร่าสลาตันของเค้าแน่ๆเลยครับ ประตูบานใหญ่ของตู้เสื้อผ้าตู้ขวาเปิดออก มีลักษณะเหมือนรากไม้สีน้ำตาลอ่อนอมชมพู ซึ่งโอบอยู่รอบกับแก้วน้ำ Strand Books (จริงๆเป็นคอลเล็กชั่นสะสมของชายกลาง ชายกลางเค้าให้พี่สาวยืมแลกกันกับการสอนพูดออกเสียงภาษาญี่ปุ่นน่ะครับ) ค่อยๆทิ้งดิ่งลงสู่เบื้องล่าง รากนั้นจริงๆแล้วก็คือส่วนของผมของเธอนั่นเอง ซึ่งเธอสามารถยืดหดได้ตามใจ (ก็เหมือนเจ้าปล่องผมสามปล่องของชายกลางนั่นแหล่ะครับ ถึงแม้ว่าเธอจะยืดหดได้ไกลกว่าชายกลางเป็นร้อยๆเมตรหรือมากกว่าก็ตาม สงสัยความสามารถยืดหดจะมีมากับต้นที่ชื่นชอบภาษา) ส่วนรากนั้นพุ่งสูงกลับขึ้นสู่กลางอากาศก่อนจะเปลี่ยนทิศทางไปทางกลอนลูกบิดประตูซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับตู้เสื้อผ้า หญิงใหญ่โหนตัวเองออกมาราวกับเจน ไม่สิ ทาร์ซาน แล้วก็ปล่อยตัวลงสู่พื้นอย่างสง่างาม พร้อมกับเสียงปรบมือของชายใหญ่แล้วก็ชายกลางซึ่งต่างรอเธอมาสมทบที่กลางห้อง

แล้วทุกต้นก็พร้อมใจกันเดินมายังพื้นห้องบริเวณที่ติดกับประตูกระจก

"แล้วพี่ทองยังไม่สวดมนต์นั่งสมาธิเหรอครับ” ชายใหญ่ถาม มือก็หยิบจับสิ่งของระเกะระกะที่ผมวางเกลื่อนพื้น ขึ้นจัดเรียงวงไว้บนโต๊ะพับให้เรียบร้อยไปด้วย “พี่ต้องยังสติแตกแน่ๆ เพราะว่าพี่ตื่นเต้นมากกับรูปนี้เนี่ยสิ ขอบคุณทุกคนมากๆ ทุกคนรู้ได้ยังไงว่าการอ่านหนังสือจบเล่มนี้ของพี่มันมีความหมายมาก” ผมถาม “ร้านหนังสือที่ชิดลมตั้งแต่สมัยเด็กแล้วไงครับพี่ทอง พี่ทองเคยเล่าให้พวกเราฟังเอง เรื่องนี้ไม่ต้องให้ปล่องผมช่วยผมก็จำได้แม่น ผมเข้าใจความรู้สึกดีครับ กับความทรงจำแรกๆที่มีกับร้านหนังสือ มันพิเศษมาก” ชายกลางเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าจนบัดนี้พี่ก็ยังจำไม่ได้ว่า ที่พี่ไปนั่งขัดสมาธิเปิดดูหนังสือของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ โดยเฉพาะเล่มที่เขียนโดยโรอัลด์ ดาห์ล จริงๆแล้วพี่ได้อ่านบ้าง หรือว่าอ่านจบรึเปล่า แต่พี่ยังจำได้ถึงปกสวยๆแล้วก็เรื่องราวเหนือจินตนาการ อย่างโรงงานช็อคโกแลตอีก” ความคิดผมเริ่มแล่น ทำเอาปล่องผมของชายกลางขยับนิดหนึ่ง (น้องคนนี้เค้ามีเหมือนปล่องผมสามแท่งอยู่บนหัวครับ มีอยู่สองปล่องที่จะช่วยกรองเอาความคิดแย่ๆ หรือความคิดที่ท้วมล้นของผมได้ เวลาที่ผมกำลังจะสติแตกจริงๆ ผมจะไปขอให้น้องช่วย)

“หญิงเล็กเค้าวาดยูนิคอร์นลงไปด้วยนะคะ พี่ทองเห็นรึเปล่า” หญิงใหญ่ชี้ชวนให้ผมพิจารณาดูสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของหญิงเล็ก จนบัดนี้ผมก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นตัวเป็นๆสักที หญิงใหญ่เริ่มฮัมเพลงอย่างมีความสุข ก็เมื่อไรที่เธอได้ทานกาแฟดำเย็นนี่สิครับ เธอก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากๆ

“เล็กก็แค่นั่งทางในแล้วก็มองไปในอนาคตคะ อีกไม่นานพี่ทองก็จะได้เจอกับยูนิคอร์นของเล็ก แล้วเราทั้งห้าต้น แล้วก็พี่ทอง ก็จะได้ขี่มังคุดยักษ์ไปเที่ยวยังสถานที่อันแสนพิศวงคะ แต่ว่าตอนนี้เล็กยังบอกอะไรเพิ่มเติมไม่ได้คะ” ผมยังจำได้ถึงวันที่หญิงเล็กเล่นโยคะที่ริมระเบียงแล้วบังเอิญบิดตัวเกินองศาไปเสียหน่อยจนหล่นจากตึกแล้วผมตกใจแทบตาย แต่ว่าเธอกลับขยายผมใบไม้แล้วใช้บินขึ้นมาจากด้านล่างได้โดยไม่เป็นอะไร เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์จากเธอ วันนี้เมื่อฟังเธอพูดเรื่องการนั่งทางใน ผมเลยเชื่อไปด้วยปริยาย แล้วก็ไม่คิดจะต้องถามไถ่ว่าเรื่องราวนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

“สถานที่นั่นจะพิเศษมากค่ะ เพราะความแปลกประหลาดจะกลับกลายเป็นสิ่งปกติธรรมดาไปเลยทีเดียวเชียวคะ” หญิงเล็กบอกใบ้ให้ผมฟังอีกหน่อยเกี่ยวกับสถานที่อันลึกลับ “แล้วที่นั่นก็จะมีหนอนชาเป็ปเปอร์มินต์ยักษ์ด้วยนะคะ น้ำลายจากหนอนตัวนี้ ถ้ากินเข้าไปแล้วเราจะขับถ่ายดีมากคะ” หญิงเล็กทำเอาชายเล็กแล้วก็น้องหนอนถึงกับตาวาวด้วยความอยากรู้อยากเห็นถึงเพื่อนสัตว์ตัวใหม่

“ฮ่าๆ พี่เชื่อจ้ะ แล้วก็รอวันนั้นด้วย เอาล่ะๆ ขอบคุณทุกๆต้นอีกทีนะ การอ่านหนังสือมันมีประโยชน์กับพี่มากๆ อย่างเล่มพี้ชยักษ์พี่ก็ได้ข้อคิดว่า จริงๆแล้วอะไรๆมันก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด อย่างสัตว์ตัวน้อยๆอย่างแมงมุมหรือว่าตะขาบ ถึงเราจะคิดว่ามันเป็นสัตว์ที่น่ากลัว แล้วก็พาลจะไปรังเกียจมัน แต่ว่าจริงๆแล้วพวกเค้าอาจจะมีเรื่องราวหรือบางสิ่งบางอย่างดีๆที่เราไม่รู้อยู่ก็ได้ แน่ล่ะ ถ้าพวกเค้ามีพิษ เราก็ไม่ควรเข้าใกล้ แต่อย่างน้อย เราก็ไม่จำเป็นต้องไปแบกรับความรู้สึกรังเกียจแบบนั้นไว้ มันรังแต่จะทำให้ใจเราตกต่ำลง” ผมทรงหัวใจคว่ำของน้องชายเล็กพากันลุกขึ้นตั้งเป็นการแสดงความเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมเพิ่งพูดจบไป

“ไหนๆทุกคนก็มารวมตัวกันตรงนี้แล้ว จริงๆ หนังสือในห้องพี่ก็มีเยอะมากมาย ไม่ใช่แค่พี่กับชายกลางเท่านั้นที่อ่านได้ พี่ก็อยากให้ชายใหญ่ หญิงใหญ่ หญิงเล็ก ชายเล็ก แม้กระทั่งน้องหนอนด้วย ทุกคนหยิบอ่านได้เลยนะครับ เผื่อวันไหนมีโอกาสเราก็มาแชร์กันอีกแบบนี้ พี่ว่ามันต้องได้เรียนรู้อะไรจากกันและกันได้แน่ๆ”

“เล็กฟังแล้วก็รู้สึกสนใจนักเขียนเรื่องพี้ชยักษ์ที่พี่ทองเพิ่งอ่านจบมากๆครับ” ชายเล็กเอ่ยขึ้น

“พี่ทองมีเล่มนึงที่เกี่ยวกับประวัติชีวิตของเค้าอยู่นะเล็ก แต่โดย Donald Sturrock เรื่อง Storyteller: The Life of Roald Dahl” ชายกลางเริ่มแนะนำหนังสือเล่มใหม่ให้กับน้องชาย ไม้หัวต้นอื่นๆทยอยกันไปทำภารกิจประจำวันของตนเอง ส่วนผมก็ไปคว้าเอามังคุดระยองฮิอีกหลายลูกจากในครัวมาให้น้องหญิงเล็กได้ทานเป็นของตอบแทนเล็กๆน้อยๆ

Previous
Previous

คัน(แต่ไม่)จิ

Next
Next

เซอร์ไพรส์