กล่องพลาสติก

67017D2B-034A-4ABE-BB8D-9CD4397FB037.JPG

“สงสัยครั้งที่แล้วภาชนะอาจจะยังมีคราบอาหารหรือไม่ก็น้ำมันอยู่ พี่ทองเลยได้กลิ่นหืน เลยสรุปว่าที่ล้างตากไว้ในห้องน้ำตอนนี้ก็เอาออกไปทิ้งแล้ว” ชายเล็กเล่าให้น้องหนอนฟัง ทั้งสองนั่งคุยกันอยู่ที่ระเบียงห้องผมยามบ่าย แดดเริ่มออกแล้วก็ค่อยลามเลียต้นไม้กระถางที่ตั้งเรียงรายจากห้องทองต่อเนื่องไปยังห้องพี่หยก พี่ชายของเค้า ที่อยู่ติดกัน

ช่วงเวลานี้ทองกำลังง่วนกับการทำสติกเกอร์ประจำวันให้เสร็จ เหมือนวันนี้จะเป็นคิวหญิงใหญ่กับคำพูดว่า I miss you.

“แต่ชั้นก็รู้ว่าพี่ทองคงต้องรู้สึกไม่ค่อยดี เวลาต้องทิ้งของ โดยเฉพาะพวกภาชนะที่อาจจะเอาไปทำอย่างอื่นต่อได้น่ะนะ นายว่ามั้ย” ชายเล็กสนทนาอย่างรื่นรมย์กับเพื่อนสัตว์ตัวน้อยของเค้า น้องหนอนคาบเอาเศษใบไม้แห้งที่หล่นอยู่ใกล้ๆกับกระถางต้นไม้ใบใกล้ ที่ซึ่งมีเหมือนตุ๊กตารูปทุเรียนวางตั้งอยู่ เค้าค่อยๆใช้ปากขยำเศษใบไม้ แล้วก็บ้วนมันลงพื้น

ชายเล็กเห็นแล้วก็หัวเราะก๊าก “นอกจากชั้นแล้ว ใครจะเข้าใจภาษาส่วนตัวของนายได้อีกมั้ยเนี่ยหนอน นายกำลังหมายถึงโปรเจคสุดท้ายที่พี่ทองส่งที่ลอนดอนใช่มั้ย ที่เค้าพยายามเอาพวกภาชนะในชีวิตประจำวันอย่างกล่องกระดาษทิชชู่ หรือไม่ก็ขวดพลาสติก มาใช้ในงานอนิเมชัน ฮ่าๆ แล้วก็รวมไปถึงกระทั่งทิชชู่ใช้แล้ว เอามาถ่ายทำเป็นเรื่องราวของเหล่าทิชชู่ประท้วง ขอความเป็นธรรม เพราะพี่ทองใช้พวกเค้ามากเกินไป (เช็ดหน้าก่อนทาสิวบ้าง สั่งน้ำมูกบ้าง อะหยึย)

“เท่าๆที่ชั้นฟังพี่ชายกลางอธิบายเรื่อง 16 ลักษณะบุคลิก ซึ่งพี่ทองเป็น INFP หรือว่าผู้ไกล่เกลี่ยเนี่ย นั่นแปลว่าพี่ทองจะไม่ค่อยอยากจะต้องมีปัญหาหรือประเด็นอะไรกับใครเท่าไหร่ ชอบที่จะอยู่ในสันติ ก็เลยกลายเป็นว่าพอต้องกลับมาอยู่บ้านกับคนในครอบครัว ก็จะไม่ค่อยได้เป็นตัวเองเท่าไหร่ อย่างเช่นเรื่องของการทำอาหาร ก็เพราะคงคิดว่าไม่อยากจะต้องไปรบกวนที่ในตู้เย็นเพิ่ม เพราะตอนนี้ก็มีของเยอะแล้ว ทั้งอาหารของคนที่บ้าน อาหารใส่บาตรพระด้วย ไหนจะเรื่องที่พี่ทองเป็นโอซีดีอีก ล้างจานทีก็ใช้เวลามากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า ล้างแล้วล้างอีก กลัวไม่สะอาด กลัวทำน้ำยาตกค้างไว้ในภาชนะ ไปทำอันตรายต่อคนอื่น เรื่องโน้นเรื่องนี้ตามฉบับนักอุดมคติ ก็เลยกลายเป็นว่าส่วนใหญ่ก็จะสั่งอาหารเอา”

น้องหนอนคงสังเกตเห็นว่าชายเล็กเริ่มรู้สึกจิตตกลงทีละน้อย อาจเพราะเค้าเป็นต้นที่ค่อนข้างจะมีอารมณ์อ่อนไหว ก็เลยคลานกระดึ๊บๆออกมาบริเวณพื้นโล่งตรงทางเดิน คาบใบไม้เขียวจากกระถางต้นข้างๆระหว่างทาง แล้วก็ทำท่า Sit-up พร้อมเคี้ยวใบไม้ทานไปด้วย

“นายกำลังบอกว่า แต่พี่ทองก็ได้ทานผักหลากหลายนะพอได้สั่งจากข้างนอก โดยเฉพาะเวลาสั่งสุกี้น้ำจาก MK แล้วก็ยังมีเวลาเพิ่มขึ้นในการมาออกกำลังกายอีกด้วย ใช่มั้ย” น้องหนอนติดลมกับการออกกำลัง จึงลุกนั่งต่อให้ครบ 30 วินาที แล้วจึง เต้นไปมาอย่างอารมณ์ดี ดีใจที่ได้กลับมาออกกำลังกาย (เค้าเคยอ้วนกว่านี้มากครับ อ้วนจนป้ากระบองเพชรระเบียงข้างๆแซวว่าจะเป็นไส้อั่วแล้ว ไส้อั่วสีเขียวด้วย) แล้วก็ดีใจที่ตัวเองทำท่าทำทางบอกใบ้ข้อความให้ชายเล็กได้เข้าใจสำเร็จ

“ยังไงก็ตามนะหนอน ถึงแม้ว่าพี่ทองจะตัดใจทิ้งกล่องพลาสติกที่เก็บไว้ล็อตเก่าไปแล้ว แต่ว่ามันก็เริ่มมีของใหม่มาแล้วน่ะซี่” ชายเล็กทอดสายตาไปไม่ไกล ซึ่งมีกล่องพลาสติกทั้งแบบสี่เหลี่ยมหลุมเดียว สองหลุม แล้วก็แบบกลม “ครั้งนี้พี่ชายใหญ่แนะนำให้ตากแดดด้วยเผื่อกลิ่นหาย พี่ทองก็เลยเอามาวางตากไว้ที่ระเบียงแทน ชั้นก็เลยมาคิดว่าชั้นจะช่วยพี่ทองคิดยังไงได้บ้างที่จะเอากล่องพลาสติกพวกนี้ไปใช้งานอะไรได้ต่อ

คราวนี้น้องหนอนก็ค่อยๆขยับหัวไปทางหัวมุมระเบียง ชายเล็กเพิ่งสังเกตผ่านตุ๊กตาทุเรียนว่า พี่หญิงเล็กกำลังออกกำลังกาย หรือไม่ก็เล่นโยคะอยู่บนเสื่อใบบัวของเธอ “สายตานายเยี่ยมเสมอหนอน ทำเอาชั้นสงสัยไม่ได้ว่าลวดลาที่เหมือนเป็นดวงตาหลายคู่บนตัวนายนี่ มันตาจริงตาหลอกกันแน่ ก็จริงนะ พี่หญิงเล็กก็อาจจะมีไอเดียให้เราก็ได้ ไหนจะเป็นต้นที่บอกให้พี่ทองไปย้อมผมสีฟ้าอีก”

ชายเล้กแล้วก็น้องหนอนเดินไปทักทายหญิงเล็ก ซึ่งกำลังเสร็จจากการ Cool Down พอดี “พี่หญิงเล็กครับ ผมมีเรื่องอยากขอคำแนะนำพี่หญิงเล็กหน่อยครับ”

“ใช้เป็นอุปกรณ์ฝึกสกิลการปรับตัวของพี่ละกันดีมั้ย พี่ขอไปสักกล่องสองกล่อง” หญิงเล็กวาดมือจากเหนือหัวออกด้านข้างลำตัวทั้งสองข้างเป็นการจบการผ่อนคลายจิตยามบ่าย ซึ่งนั่นหมายถึงเธอจะมีพลังจิตที่เข้มข้นเป็นพิเศษ มหาศาลเสียจนสามารถอ่านใจน้องชายออกถึงคำถามที่เตรียมมา (ชายเล็กยังคิดคำถามได้ไม่ทันจบประโยคเสียด้วยซ้ำ)

ชายเล็กเริ่มชินกับสกิลการอ่านใจที่แกร่งกล้าขึ้นเรื่อยๆของพี่สาวคนรอง ผู้ซึ่งไม่เคยหยุดที่จะเพิ่มพูนทักษะใหม่ๆอยู่เสมอ แล้วจึงพูดตอบพี่สาว “การปรับตัว เหรอครับพี่หญิงเล็ก มันคืออะไรเหรอครับ”

“พี่ก็ยังไม่รู้เหมือนกันคะชายเล็ก แต่ว่าพี่มีลางสังหรณ์ว่าพี่จะรู้เมื่อเวลาพลบค่ำ หลังจากที่พี่ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการวาดการ์ตูนกับพี่ทอง เราสัญญากันไหวหลังจากที่เมื่อวานพี่แวบไปเห็นพี่ทองเตรียมหนังสือสามสี่เล่มที่เกี่ยวกับการวาดการ์ตูน แล้วพี่เลยไปทักถาม แล้วพี่ทองก็บอกว่าจะชวนพี่อ่านเย็นนี้ ไม่ต้องห่วงคะเล็ก ไอเดียเราบีบมันไม่ได้คะ ต้องปล่อยมันผุดออกมาตามธรรมชาติ มันจะสวยงามที่สุด” แล้วเธอก็ดำดินหายวับไป

ชายเล็กยังไม่ชินก็คงแค่เรื่องปริศนาธรรมของพี่สาวคนรอง เค้าคงต้องฝึกสกิลการคิดเชิงนามธรรมให้มากขึ้น เค้าหันไปดูน้องหนอนซึ่งกำลังส่งเสียง ฮึ้บ ฮึ้บ พยายามจะมุดดินหายไปแบบพี่หญิงเล็กบ้าง แต่ก็กลายเป็นเหมือนว่าเค้าแค่กำลังเบ่งอึ๊เท่านั้น “ป่ะครับหนอน ไว้ค่อยมาลองมุดใหม่นะ เราไปทักทายคุณลุงคุณป้ากระบองเพชรกันก่อนดีกว่า ช่วงบ่ายๆแกจะเริ่มเหงาอีกแล้วแน่ๆ แล้วทั้งสองก็เดินหายลับไปทางห้องระเบียงห้องพี่ชายซึ่งอยู่ติดกัน

จังหวะที่ชายเล็กกับน้องหนอนเดิน (และคลาน) เลยผ่านกล่องพลาสติกที่วางเรียงรายตากแดดอยู่นั้น

ร่างของหญิงเล็กก็ค่อยๆผุดขึ้นมาจากตรงกลางของกล่องแต่ละกล่อง มีเพียงกระถางต้นไม้ที่ตั้งเรียงรายอยู่ใกล้ๆที่เป็นสักขีพยานถึงความพิศวงที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนกับน้องต้นไม้หมายเลขสี่ของบ้านไม้หัว

Previous
Previous

ความไม่รู้

Next
Next

ลองสักตั้ง