ลองสักตั้ง

E1820CDE-F752-4211-9808-A4BCE1044B1D.JPG

“เป็นตั้งที่น่ารักมาก” ผมบอกชายใหญ่ ตอนนี้เป็นเวลา 1:48 ช่วงเวลาบ่ายกับเช้าที่หมองหม่นอีกหนึ่งวัน ผมเพิ่งจะออกกำลังกายเสร็จ เตรียมพร้อมกับสู้รบกับความสับสนประจำจะคงจะประเดประดังเข้ามาในอีกไม่ช้า แล้วบนเตียงของผมก็คือน้องคนโตของบ้านไม้หัวซึ่งวันนี้ก็ถือเป็นวันของเค้าบ้าง เพราะผมก็ได้เริ่มจัดห้องแล้ว ไม่สิ จัดเสื้อผ้า ไม่สิ จัดเสื้อผ้าส่วนหนึ่งของมุมห้อง ถ้าจะเอาให้ได้รายละเอียดเพิ่มขึ้นสักนิดสักหน่อย

“คิด คิด คิด ถึงเธอไม่ยอมหาย ไม่ใช่ครับ นั่นมันส่วนหนึ่งของเพลงจาก Triumpth Kingdom ใหญ่กำลังจะบอกว่า คิดไปก็ไม่สู้ใช้สองมือทำหรอกครับ ลองเลยพี่ทอง” ชายใหญ่ร้องเพลงโปรดของเค้า ทำให้ผมนึกถึงตอนไปยิมด้วยกันสมัยยังเรียนที่ลอนดอน “ผมรู้ว่าพี่ทองก็คงคิดไม่แตกเสียทีว่าจะพับเสื้อด้วยวิธีการเดิม หรือว่าจะลองทำแบบคุณมาริเอะ คนโดะ พับเป็นตั้งๆ คงกำลังคิดใช่ไหมครับ ว่าแบบไหนจะเวิร์คกว่ากัน จะคุ้มเสียพลังงานที่ต้องไปหยิบเสื้อผ้าออกมาไหม ผมบอกให้เลยว่า ไม่รู้หรอกครับ มันต้องลองทำดู” วันนี้ชายใหญ่ได้กลับมาเป็นพี่ใหญ่ประจำบ้านอีกครั้ง ผมได้แต่ฟังอย่างสงบเสงี่ยม เพราะเวลาที่ผมต้องติดกับดักความคิดแบบนี้ ก็มีแต่ไม้หัวที่ช่วยผมได้

“แล้วผมก็เห็นพี่ทองเอาเล่มกราฟฟิคโนเวล Einstien ของ Nobrow ออกมาวางบนโต๊ะ มีโปรเจคอะไรในใจอยู่รึเปล่าครับ” ชายใหญ่ถามผม ผมก็ตบๆลูบๆตั้งเสื้อผ้าของเค้าอย่างทะนุถนอม “ใช่แล้ว จริงๆพี่ก็อยากลองกลับมาวาดภาพสไตล์คอมิคช่องๆดู เคยอยู่ครั้งเดียวตอนนั้นที่วาดการ์ตูนช่อง ประมาณสี่ช่อง พี่วาดหญิงเล็กไป แต่พี่ว่ามันก็ยังมีความชืดๆอยู่ อาจจะเพราะตอนนั้นพี่ไม่ได้พลิกแพลงองค์ประกอบภาพเสียเท่าไหร่ มันเลยดูไม่ค่อยอบอุ่น” ผมสัมผัสได้ถึงความกลัวความผิดพลาดของตัวเองอีกครั้ง “ได้ เดี๋ยวคืนนี้พี่จะลอง ถ้ามันจะเน่าก็ต้องเน่า” ผมบอกน้อง พูดไปทั้งๆที่กล้าๆกลัวๆนั่นแหล่ะครับ “คิดซะว่า ดีกว่าปล่อยให้มันไปเน่าในหัวละกันครับพี่ทอง” ผมฟังแล้วก็หัวเราะเจื่อนๆ

ผมเลยได้จังหวะพูดอะไรให้ได้แต้มกลับมาบ้าง “แต่พี่ก็ลองฟัง Podcast รายการอื่นๆด้วยนะช่วงนี้ นี่ล่าสุดฟังของ Times Literary Supplement เหมือนเค้าจะเกี่ยวข้องกับ The Times หนังสือพิมพ์ของอังกฤษ โอ้ย พูดแล้วพี่ก็นึกถึงหนังสือ Alchemist ที่เค้าบอกเรื่องว่าโลกจะส่งสัญญาณผ่านสิ่งต่างๆมาให้เราได้รับรู้ เพียงแต่ว่าเราต้องสังเกตดู อะไรประมาณนั้น พี่กำลังหมายถึงรูปวาดประกอบบนปกหน้าของฉบับล่าสุดของ Times Lieterary Supplement ที่ดูออก Graphic Novel มากๆ ทำให้พี่ก็ยิ่งอยากไปเปิดอ่าน อีกอย่างที่เจ๋งคือชื่อ Podcast เค้าเท่ห์มาก ชื่อ Freedom, Books, Flowers & The Moon ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของวลีจากออสการ์ ไวลด์ ที่บอกว่า ‘ใครเล่าจะไม่มีความสุข เมื่อเขาเหล่านั้นถูกรายล้อมไปด้วยอิสรภาพ หนังสือ ดอกไม้ อีกทั้งแสงจันทร์’”

“แล้วได้ยินอะไรน่าสนใจบ้างมั้ยครับ” ชายใหญ่กำลังจะกลืนหายไปกับแถวของตั้งเสื้อผ้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ผมอึ้งไปสักครู่ เมื่อต้องเผชิญกับคำถามที่มุ่งเอารายละเอียด “เอ่อ พี่ก็รู้สึกว่า พี่คิดถึงสำเนียงอังกฤษนะ แต่เอาจริงๆ พี่ก็ยังไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่ว่าเนื้อหาเค้าพูดถึงอะไร” ผมพยายามปล่อยผ่านความรู้สึกผิด แม้ว่ากลิ่นและความรุนแรงของมันจะคลับคล้ายคลับคลากับลมตด

“ฮ่าๆ ดีครับ อะไรที่เกิดขึ้นก็ดีหมด ลองไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะรู้ตัวเองขึ้นเรื่อยๆครับ” ชายใหญ่พูดเสร็จก็กระโดดลงจากเตียงหอบเอาเสื้อผ้าไปใส่ในลิ้นชัก ผมละสงสัยว่าเค้าไปฝึกความยืดหยุ่นมาจากที่ไหน

23:55 น. จนจะหมดวัน วันนี้ก็ยังเป็นวันของชายใหญ่ เพราะผมก็ยังผลิตงานสติกเกอร์ออกมาเสร็จอีกหนึ่งชิ้นเป็นที่เรียบร้อย

"แล้วก็อ่านพี้ชยักษ์ไปเกือบเจ็ดสิบหน้าด้วยนะครับ” ชายใหญ่พูดชมซะไม่อายเพดานอายพื้นเลย “มันก็มีรูปคั่นอยู่เยอะนะใหญ่ ฮ่าๆ” แต่ผมก็ภูมิใจในตัวเองเล็กๆ ทั้งหมดทั้งมวลนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าผมยังคงสถานภาพเป็นหนักงานประจำให้กับบริษัทใดบริษัทหนึ่งอยู่

“สงสัยวันนี้พี่ทองได้พลังเป็ดย่างร้านพูนสินที่คุณพ่อซื้อมาให้ทานนะครับ เลยค่อนข้างจะทำอะไรโน่นนี่ได้เยอะพอตัวเลย” ชายใหญ่วิเคราะห์ “พวกเสื้อเสวตเตอร์กับเสื้อเชิ้ตแขนยาว ผมเอาไปฝากไว้ที่ตู้เสื้อผ้าห้องพี่หยกนะครับ ตู้ในสุดที่พี่ทองมีโควต้าอยู่” ชายใหญ่อัพเดทให้ผมฟัง “ตอนนี้ก็คงเหลือแต่สารพันของจุกจิกที่ว่างกองอยู่หน้าทีวีนะครับ แล้วก็จะได้เริ่มเคลียร์งานที่คุณพ่อฝากฝังไว้ แล้วก็จัดการหนี้ครับพี่ทอง แล้วงานวาดบล็อกเป็นยังไงบ้างครับวันนี้”

“ตื่นเต้นมากครับใหญ่ วันนี้พี่ใช้ Copic วาด แล้วก็วาดสไตล์ที่ไม่เคยมาก่อน จริงๆการ์ตูนช่องๆก็เหมือนเคยวาดอยู่ไม่กี่ครั้ง แต่ว่าครั้งนี้พยายามท้าทายตัวเองให้ฉีกสิ่งที่เคยทำเดิมๆออกไปอีก ตั้งแต่เริ่มเลย ก็ไม่มีการร่างดินสอ ลุยเลยด้วยหมึกดำ รวมถึงตอนแบ่งช่อง ก็แบ่งมันแบบหน้างานเลย ได้ออกมายังไงก็ปล่อยให้มันพาเราไป ว่าจะวาดอะไรลงไป จะสร้างสรรค์ยังไง” ผมเล่าประสบการณ์กึ่งหวาดเสียวกึ่งตะมุตะมิให้น้องฟัง ไม่ตะมุตะมิได้ไงล่ะครับ สีสันปากกา Copic เค้าสดใสแล้วก็หลากหลายให้เลือกมาก

“พี่ทองเข้าใกล้ความเป็น INFP ของตัวเองขึ้นไปอีกขั้นนึงแล้ว” ผมเดาว่าชายกลางคงเอาเรื่องบุคลิกภาพ ความรู้ใหม่ของเค้าไปแบ่งปันกับพี่ๆน้องๆจนครบทุกคน ตอนนี้ชายใหญ่เลยรู้ว่าผมเป็นคนประเภทตัว P หรือ Perceiver ก็คือ ไม่เน้นการวางแผน เน้นการด้นสด

“ก็ใช่นะใหญ่ พี่ก็รู้สึกอิสระมากขึ้น รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างความผิดพลาด นึกไปถึงตอนไปเจอศิลปินระดับโลกจากฝรั่งเศส Jean Julian ที่เซ็นทรัลเวิล์ดหลายปีก่อน จำได้ว่าเค้าวาดสดให้พี่ลงบนกระเป๋า ถามพี่ว่าพี่ชอบอะไร พี่ตอบ Star Wars เค้าเลยวาด Darth Vader ไลท์เซเบอร์เหี่ยวมาให้ พี่ทึ่งมากๆ มันเป็นทักษะที่พี่ใฝ่ฝันในใจลึกๆ การได้วาดอะไรแบบออกมาจากหัวเนี่ย มันดูช่างอิสระแล้วก็น่าตื่นเต้นเหลือเกิน ซึ่งแต่ก่อนพี่ก็จะคิดแต่ว่า เราต้องฝึกให้มากพอๆๆๆ ก่อน เพื่อจะได้มั่นใจแล้วก็วาดอะไรออกมาได้สวยสมใจในฝีปากกาเดียว แต่ตอนนี้พี่เริ่มเข้าใจใหม่ว่า จริงๆอาจจะไม่ใช่ มันเป็นเรื่องของการ ยอมรับ แล้วก็ ปล่อยวาง ความคาดหวัง ความอุดมคติ ภาพในใจที่คิดว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ แล้วก็แค่ วาดมัน ล่ะมั้ง”

“โอ้ย ศิลปินทอง ใหญ่ตายตาหลับแล้วครับ” ใหญ่ชายปิดคำสนทนาระหว่างเราสำหรับวัน ‘productive’ วันนี้ เดินสวบๆไปปิดพัดลมเตรียมเข้านอน

ผมไม่คิดว่าน้องผมจะตายง่ายๆหรอก ธรรมชาติเค้าอายุยืนครับ

Previous
Previous

กล่องพลาสติก

Next
Next

อาทิตย์ละเล่ม