ความเป็นตัวเอง

84943E4F-FF29-450A-84B0-EA133D3F9802.JPG

“เห็นมั้ยครับว่ามีแต่คนรักพี่ทองขนาดไหน” ชายใหญ่ให้คำยืนยันกับผมอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์การปะทุอารมณ์ที่ผมอดกลั้นเอาไว้เมื่อวาน ซึ่งตามมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยจากสมาชิกในบ้าน ตั้งแต่พี่ๆทั้งสามคน จนต้องรบกวนไปถึงคุณแม่ “อาจจะเป็นนิมิตหมายที่ดีครับ ว่าการดูแลจิตใจของเรานั้น ลำพังแค่ตัวเราสนใจอยู่กับตัวเองคนเดียว ก็คงจะไม่พอ เมื่อต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น คงต้องมีการพูดคุยกัน สื่อสารกันถึงความต้องการระหว่างกันมากกว่านี้”

ชายใหญ่ทักผมไม่นานหลังจากที่ผมวางสายโทรศัพท์กับพี่ชายไป พี่เค้าโทรมาบอกว่ายังไงเค้าก็สนับสนุนกับสิ่งที่ผมทำ นั่นมันมีความหมายสำหรับผมมาก สงสัยพี่ๆเค้าคงคุยกัน ผมก็ทำให้เค้าเป็นห่วงไปซะได้ แล้วพี่น้องไม้หัวก็คงคุยกันอีกนั่นแหล่ะ เพราะเมื่อวานที่จริงก็เหมือนจะมีแต่ชายเล็กที่ได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะตอนนั้นพี่ๆต่างไปเข้าคลาสดำดินกันหมด

“บางที่ผมอาจจะต้องจัดเวลาเพิ่มให้พี่ทองด้วย เป็นเวลาพักจากไม้หัวบ้างดีกว่า พวกเราจะแวบไปฝึกดำดินกับหญิงเล็ก ฝึกดูก้อนเมฆกับชายกลาง ทำนายความฝันกับสมเสร็จ ไม่ก็ฝึกพรางตัวกับแมลงผนัง พี่ทองจะได้มีเวลาเพิ่มขึ้น นอกจากเอาไว้ให้ตัวเอง จะได้เอาไว้พูดคุยกับที่บ้านมากขึ้นด้วยครับ แล้วที่สำคัญก็คือ เวลาสื่อสารกัน พี่ทองก็ต้องกล้าที่จะเป็นตัวเอง กล้าที่จะพูดสิ่งที่ตัวเองคิด ว่าชอบไม่ชอบ โอเคหรือไม่โอเค ให้ซื่อสัตย์กับตัวเองมากขึ้น” ตอนนี้ผมอาจจะต้องเรียกน้องชายใหญ่ว่าพี่ชายใหญ่ไปด้วยอีกคน พอได้ฟังสิ่งที่ให้สติจากน้องไม้โขดแล้วก็รู้สึกประทับใจ

“แต่ก็เหมือนกับการทำท่า Planking ไม่ก็ Bicycle ในเซสชั่นของการออกกำลัง ทุกอย่างที่เพิ่งเริ่มใหม่ มันก็จะยากในช่วงแรก จนเมื่อเราฝึกฝนไปทุกวันๆ เดี๋ยวมันก็จะลื่นขึ้น คล่องขึ้น ชำนาญขึ้นเองนั่นแหล่ะครับ” ชายใหญ่ยกตัวอย่างถึงสิ่งใกล้ตัวที่ทำให้นามธรรมฟังดูเป็นรูปธรรมมากขึ้น “ว่าแต่พี่ทองจัดการแขวนรูปวาดให้คุณเรียบร้อยแล้วนะครับ” ผมพยักหน้าตอบน้อง “งั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาที่พี่ทองจะได้กลับมาให้เวลาตัวเองบ้าง ก่อนที่จะไปดู​ Phantom Thread เรามาจัดห้องกันก่อนดีกว่า” ชายใหญ่โหนตัวเองมาจากด้านบนของทีวี บริเวณที่เค้านั่งคุยกับผมสักครู่นี้

“เรามาเริ่มจากการเก็บหนังสือกันก่อนดีกว่า ผมว่ามันค่อนข้างจะกระจัดกระจายอยู่ในหลายๆที่” ทันใดนั้นในใจผมก็ส่งเสียงเบาๆประมาณว่า ‘แต่พี่อยากเริ่มจากสิ่งของกระจุกกระจิกหน้าทีวีก่อนนะ เพราะว่าเป็นจุดที่ต้องเดินผ่านบ่อยๆ ถ้าทำให้สะอาดตาได้ก็คงดี’” แต่ผมก็ปล่อยความคิดนั้นไป เราค่อยๆเก็บหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นกองหนังสือที่มาจากบ้านบางใหญ่ ซึ่งบางตั้งก็ยังอยู่ในห่อพลาสติกด้วยซ้ำ ไปจนถึงตั้งหนังสือที่หล่นระเนระนาดอยู่ทางด้านซ้ายของเตียง ซึ่งถูกวางกองอยู่เสมือนเป็นทำนบกั้นน้ำ

“จริงๆใหญ่ลืมไป เราน่าจะเริ่มจากส่วนของเสื้อผ้าก่อน จะได้เป็นการทำตามวิธีการของมาริเอะ คอนโดะ งั้นเรามาเก็บผ้ากันก่อนดีกว่าครับ” ชายใหญ่เดินนำสวบๆไปยังบริเวณด้านหน้าของทีวี ซึ่งมีกล่องพลาสติกขนาดใหญ่หลายใบวางซ้อนอยู่ ภายในกล่องซึ่งถูกวางซ้อนอยู่ชั้นบนสุดมีเสื้อผ้าของผมที่มาจากอนดอน บ้าง ที่มาจากบ้านนี้บ้าง จังหวะนั้น เอาอีกแล้ว ในใจผมเหมือนมันกำลังประท้วงว่า ‘แต่พี่อยากจัดห้องน้ำก่อนนะ’ แต่สุดท้ายด้วยความใจอ่อนหรือเปล่าไม่ทราบ ผมก็ยอมที่จะทำตามสิ่งที่พี่ชายใหญ่แนะนำ

ผมค่อยๆหยิบเสื้อผ้าเป็นตั้งๆรับต่อจากน้องชายใหญ่เพื่อนำไปเก็บยังตู่เสื้อผ้าที่วางอยู่ไม่ไกลจากกัน “เรามาพับเสื้อผ้าในลักษณะแบบที่ตั้งได้ แบบที่มาริเอะ คอนโดะ สอน ดีไหมครับพี่ทอง” จุดนั้นเองที่ตัวตนผมเริ่มที่จะขอออกเสียงบ้าง เพราะผมรู้สึกเองส่วนตัวว่า บางทีในบางเคล็ดลับผมอาจจะไม่เห็นด้วย ซึ่งอันนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมไม่เห็นว่ามันจะต้องมาไล่พับผ้าเสื้อใหม่ทั้งหมดกับเสื้อผ้าที่เรามีแล้วอยู่เสียที่ไหน ครั้งนี้ผมรวบรวมความกล้าขึ้นมา เพื่อที่จะตอบน้องชายว่า “พี่ขอบคุณเรามากนะ แต่ว่าพี่ว่าพี่คงขอพับแบบ…” ผมค่อยๆเปล่งเสียงออกไปอย่าไงไม่เต็มเสียงนัก จังหวะนั้นน้องชายก็กำลังแบกกองเสื้อผ้างกๆ เดินไปจนถึงหน้าบานประตูตู้เสื้อผ้า ชายใหญ่บรรจงเปิดประตู ค่อยๆคลี่กางเกงผมออกทีละตัวๆ ขึ้นห้อยบนราวหอยกางเกงภายในตู้ “พี่ทองพับเสื้อเสร็จก็ส่งมานะครับ” ผมก็ค่อยๆพับเสื้อผ้าในแบบที่ตัวเองถนัด แล้วก็ส่งให้น้อง คราวนี้พูดไปก็มองน้องไปด้วยว่า “พี่ขอพับแบบนี้ละกันนะ” แล้วก็ส่งเสื้อผ้าที่พับในลักษณะทบที่ไม่ใช่สไตล์คอนโดะ ภาพแรกในหัวของผมก็คงเป็นชายใหญ่อาจจะรู้สึกผิดหวังหรือว่าอาจจะคิดต่างจากผม หรือว่าอาจจะเสียใจ หรือว่าผิดหวัง หรือว่าไม่ชอบผม หรือว่า…​ “โอเคครับ สบายมาก” น้องก็แค่รับเสื้อที่พับแล้วเข้าใส่ในตู้เสื้อผ้า สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่ตรงกับสิ่งที่ผมคิดไว้ซักนิด

“นี่ถ้าเราอยู่ในหนัง ก็คงเป็นฉากที่กาลาเดรียลหลุดตัวเองออกมาจากภวังค์ ตอนที่เธอกำลังโดนพลังจากแหวนหน่วงนำให้เธอเกิดความอยากครอบครองแหวน แต่เธอก็เลือกที่จะสลัดเอาความต้องการตรงนั้นทิ้งไป แล้วแหวนก็ปลอดภัยอยู่กับโฟรโด้อีกครั้ง พร้อมกับการสอบผ่านบททดสอบของเธอ พี่ทองก็กำลังสอบผ่านบททดสอบความแน่วแน่ของจิตใจ ผ่านไป ตอนนี้ก็” ชายใหญ่ค่อยๆใช้มือแหวกเสื้อลงไปทีละตัวๆ “ตอนนี้ก็ผ่านบททดสอบไปได้เท่ากับเสื้อ 5 ตัวแล้วครับพี่ทอง” ผมได้แต่ยิ้มรับ ไม่หัวแต่ละท่านเค้ามีปริศนาธรรมคำสอนที่แตกต่างมาให้ผมได้ตามไม่ทันอยู่เสมอจริงๆครับ

Previous
Previous

หมายเลข 4

Next
Next

แมลงผนัง