อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ

FFE30F54-38F9-4DAE-B033-3FCE5611A168.JPG

“ใจเย็นๆก่อนนะคะ ลมหายใจค่ะ” หญิงเล็กให้กำลังใจผม ตอนนี้เวลา 10:59 น. แล้วชายเล็กก็น่าจะกำลังจะเร่ิมนึกสงสัยว่าทำไมวันนี้ผมถึงไปรดน้ำต้นไม้ช้า ชายกลางน่าจะกำลังนอนฝันถึงฉากที่เด็กเลี้ยงแกะกำลังท้าพิสูจน์เพื่อกลายร่างเป็นสายลม ฉากสำคัญจากนวนิยาย Alchemist ไม่แน่เค้าอาจจะรับบทเป็นเด็กเลี้ยงแกะคนนั้นเสียเอง ก็เค้าชอบบทพระเอกอยู่แล้ว ชายใหญ่คงกำลังร่างแผนงานอัพเดทล่าสุดให้ผมอยู่ที่ชั้นติดกับตู้เสื้อผ้า ที่ซึ่งมีกองสเก็ตบุ๊คและสมุดโน้ตหน้าว่างเหลืออีกเยอะให้เค้าได้ช่วยจัดการชีวิตผม ดีว่าสาวหญิงใหญ่ คงจะเริ่มอ่านทบทวนคันจิแล้ว เมื่อเค้าเห็นว่าสล็อตเวลาของผมน่าจะมีเพิ่มขึ้นมาบ้างแล้ว หลังจากที่ผมส่งงานจ้างให้ลูกค้ากลับไปจนหมด เอาว่าเราทุกคนต่างมีภารกิจเป็นของตัวเอง

“แล้วเราก็มีกรรมเป็นของตัวเอง” ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เจอไปด้วยความทุกข์ ชนิดที่ว่าไม่ต้องเขินอายหรือรู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้อีกครั้งแต่อย่างใด เมื่อคนที่รับฟังเป็นหญิงเล็กด้วยแล้ว ผมไม่จำเป็นจะต้องปกปิดความลับใดๆทั้งสิ้นกับเธอ “เรายังมีกันและกันนะคะ เล็กก็คือกัลยาณมิตรของพี่ทอง และเวลาที่พี่ทองมีปัญหา เล็กรับฟังได้ทุกเรื่องคะ” ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าผมโชคดีขนาดไหน ที่น้องๆทั้งห้าคนต่างเป็นนักฟังที่ดีของผมทั้งสิ้น ไม่มีใครเลยที่จะเริ่มบทสนทนาด้วยคำเสนอแนะหรือคำวิจารณ์ใดๆ หากเค้าไม่ได้รับฟังเสียก่อนถึงเรื่องราวที่ผมเพิ่งได้เผชิญ

“ก็อย่างที่พี่พาเล็กไปดูในห้องน้ำนั่นแหล่ะครับ ที่มีแต่แก้วน้ำวางระเกะระกะถูกดองไว้รอล้าง ปัญหาเรื่องโอซีดีของพี่มันก็ยังคงอยู่” “แล้วก็เป็นอีกวันที่พี่ทองรู้จักมันอีกครั้งคะ ถึงแม้ว่าจะหลงขึ้นรถไปกับมัน” “ใช่จ้ะ ถูกหลอกไปได้นิดหน่อย ดีว่ามันยังไม่ทันได้สตาร์ทรถ” ผมพูดต่อประโยคกับน้องสาว “หรือว่าจริงๆแล้ว พี่เองนี่แหล่ะ ที่ปล่อยให้ตัวเองถูกพาขึ้นรถ คล้ายๆว่าตัวเองคิดว่าเค้าก็คงไม่ได้ขับพาไปที่ไหนไม่ดีละมั้ง อาจจะชะล่าใจอยู่ ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้พี่ยอมรับไปกับสิ่งนี้เพิ่มขึ้นๆ…​หรือว่าที่จริงแล้ว ทุกข์ใจที่หนักกว่าของพี่คงเป็นการต่อสู้กับความคิดที่ว่า เสียเวลา ลงรถได้แล้ว ทำอะไรอยู่ ละมั้ง” ผมไม่หวังว่าน้องสาวจะเข้าใจทุกอย่างที่ผมพูดในตอนนี้ เพราะนี่คือมหากาพย์ที่เกิดขึ้นกับผมมานานหลายปี ความย้ำคิดย้ำทำ ที่ชอนไชเข้าไปในตัวผม หยั่งลึกเสียจนผมไม่รู้ว่าน้องไม้หัวจะสามารถช่วยอะไรผมได้หรือไม่ “ตอนนี้พี่ทองทำอะไรอยู่คะ” หญิงเล็กถามผมขึ้นมา “ก็คิดเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่ตอนล้างจานเมื่อเช้านี้ ที่พี่ต้องตกไปในความคิด แล้วก็ทำให้ลงเอยพี่ไม่ค่อยอยากจะ…”

“เล็กขอเพียงหนึ่งคำคะ”

ผมสะดุ้งโหยงนิดหน่อย “ก็คง คิด อยู่…​ครับ” ผมตอบหญิงเล็ก

“สัญญาณที่ดีคะ เท่านั้นแหล่ะคะพี่ทอง คิดก็รู้ว่าคิด ทำก็รู้ว่าทำ อดีตก็คืออดีต อนาคตก็คืออนาคต ปัจจุบันก็คือปัจจุบันคะ”

“มีอะไรหรือเปล่าครับพี่ทอง” เสียงชายเล็กดังขึ้นมาจากด้านหลัง มือกำลังถือเห็ดนางฟ้า ของขบเคี้ยวชนิดใหม่ ที่คุณแม่ผมเพิ่งเอามาให้เมื่อคืน รสชาติออกคล้ายๆกับเนื้อสวรรค์ มีหอยทากพเนจรเคี้ยวเห็ดทานอยู่ข้างๆ สีหน้าทั้งสองออกฉงนสงสัย

ผมเตรียมจะพูดอย่างอัตโนมัติว่า ไม่มีอะไรครับ แต่มันก็จะเป็นการไม่ซื่อสัตย์กับตัวเองไปหน่อย ก็เลยบอกว่า “มีตะกี้นี้ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วครับเล็กชาย ตะกี้พี่เล็กหญิงช่วยบำบัดความทุกข์ให้พี่อีกแล้ว” ชายเล็กทำสีหน้างงหนักขึ้นไปอีก ผมหันไปดูที่โต๊ะทำงานตัวเอง หญิงเล็กดำดินหายไปแล้ว ‘อัตตา หิ อัตตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งของตน’ ธรรมะที่ผมยังจำได้ว่าเคยอ่านเจอที่แผ่นป้ายตามเสาสมัยยังเป็นนักเรียนมัธยม หญิงเล็กทิ้งเพียงถ้อยคำลางเลือนไว้ให้ผมได้ใช้ต่อสู้กับ จิตใจ ของผมต่อไป “พี่เรานี่ติสต์ที่สุดเลย ป่ะครับเล็กชาย รดน้ำกัน” ผมบอกน้องชายคนเล็กแล้วก็เดินไปหยิบบัวรดน้ำ

23:29 น. ไปๆมาก็คงมีแต่ช่วงเช้า ที่ผมต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปดังใจหวัง เพราะหลังจากเหตุการณ์นั้น ผมก็ปฎิบัติภารกิจอื่นตามปกติ ถึงแม้ว่าจผมจะยังทำสติกเกอร์ไลน์ไม่เสร็จ แต่ก็ยังได้ทำ รวมไปถึงภาพวาดของคุณแม่ด้วย

“จริงๆพี่ทองก็ยังไม่เคยให้คุณแม่ทำแบบทดสอบ MBTI นะคะ แต่ใหญ่ขอทายว่าคุณแม่น่าจะมีบุคลิกแบบ Extraversion ก็คือได้พลังงานเวลาที่อยู่กับผู้คน ต่างจากพี่ทองที่เป็น Introversion ที่พลังงานจะกลับมาก็ต่อเมื่อได้อยู่คนเดียวปลีกวิเวก” หญิงใหญ่พูดขึ้นมาท่ามกลางเสียงดนตรีเพลงที่ผมเปิดคลอ ในระหว่างที่ผมก็วาดรูปคุณแม่ ช่วงนี้น้องๆทุกคนคงสังเกตเห็นว่าผมอาจจะยิ่งดูปลีกวิเวกเข้าไปอีก เพราะผมเพิ่งจะได้กลับมาศึกษาอ่านเกี่ยวกับความหมายของบุคลิกลักษณะ ตามแบบทดสอบ MBTI ซึ่งเป็นแบบทดสอบทางจิตวิทยาที่แบ่งผู้คนออกเป็น 16 ประเภท โดยใช้ตัวย่อจาก 4 คู่ตัวอักษร ซึ่งผมเป็น INFP

“ใหญ่ก็แค่สงสัยค่ะพี่ทอง ว่าคุณแม่จะมีรีแอ็คชันยังไงน้า เวลาแกเห็นภาพนี้ ใหญ่เก๊ทนะคะ พี่ทองชอบภาพนี้เพราะว่าคุณแม่ดูกำลังมีความสุขอยู่ในโลกของเธออยู่ แต่ใหญ่ก็ไม่รู้ว่าแกจะมีความรู้สึกว่ากำลังโดดเดี่ยวอยู่รึเปล่า” หญิงใหญ่ ซึ่งทำแบบทดสอบมาก่อนแล้วก็มีคุณลักษณะของตัวอักษรแรกเป็น Extraversion ทักเรื่องนี้ขึ้นมาให้ผมได้ขบคิด “นั่นสินะ พี่ก็อยากรู้เหมือนกัน จริงๆพี่ว่าแกก็มีทั้งสองด้านนะ บางทีแกก็จะเอนจอยกับการอยู่ผู้คน เพราะแกก็จะพูดคุยเก่ง สร้างเสียงหัวเราะให้คนฟังได้เสมอๆ แต่หันมาอีกทีเราก็จะเห็นแกหายกลับไปอยู่ในห้องแล้ว หรือจริงๆแกอาจจะทำแบบทดสอบได้เป็น Introversion ก็ได้นะ” ผมตอบหญิงใหญ่ รู้สึกสนุกที่ได้สนทนาเกี่ยวกับเรื่องของแบบทดสอบที่ผมชอบชิ้นนี้

“หรือว่าพี่จะทำให้ภาพมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่…” “555555” เสียงหัวเราะของชายกลางดังขึ้นมาจากบริเวณซอกข้างเตียง แล้วก็ตามมาด้วยเสียงวิ่งเตาะแตะดังใกล้เข้ามายังบริเวณหัวมุมติดระเบียง ซึ่งตอนนี้ผมใช้เป็นพื้นที่สตูดิโอ นั่งวาดรูป แล้วก็สนทนาอยู่กับหญิงใหญ่ “พี่ทอง พี่หญิงใหญ่ อ่านมุกตลกที่คุณแม่พี่ทองส่งมาให้หรือยังครับ ตลกมากเลย” ชายกลางส่งไอโฟนมาให้ผมลองอ่านข้อความ “เรานี่ขยันอ่านสิ่งที่แม่พี่ส่งมาให้จริงๆ พี่สารภาพว่าตัวเองก็อ่านได้ไม่หมด” ทันใดนั้นความมองเห็นภาพใหญ่ การปะติดปะต่อของความเป็น INFP ของผมก็ทำงานอีกครั้ง ผมนึกออกทันทีว่าอะไรจะทำให้ภาพของคุณแม่ผมมีชีวิตชีวาขึ้นมาละทีนี้

Previous
Previous

การบ้าน

Next
Next

ความรักทดแทนความกลัว