การบ้าน
ก่อนที่ผมจะลงไปแวะดูคุณแม่ว่าแกตื่นรึยัง ตอนนี้ผมนั่งประชุมเพลิงอยู่กับเหล่าห้าพี่น้องไม้หัว หญิงเล็กกำลังยืนชื่นชมภาพวาดพอเทรตของคุณแม่ผม “ไว้เดี๋ยวเรากลับคอนโด แล้วเราจำความรู้สึกนี้ไว้นะค่ะ ภาพพอเทรตที่ให้ความรู้สึกถึงพลังชีวิตแบบนี้ เล็กว่ามันเด็ดสะระตี่มากคะ” หญิงเล็กหลุดคำกริยาพิเศษๆออกมาอย่างคาดคิด เหล่าหนุ่มน้อยจัดแจงแหวกผ้าม่านและมู่ลี่ที่ถูกรูดปิดไว้อย่างเรียบร้อยออกเสร็จสรรพเพื่อชะเง้อออกมองไปยังบ้านของเพื่อนบ้านหลังที่อยู่ฝั่งขวาเมื่อมองออกจากตัวบ้าน เค้ากำลังซ่อมแซมอยู่น่ะครับ “ดูพื้นสิ เหมือนผ่านสงครามอะไรมาเลย” ชายใหญ่เริ่มจินตนาการ เค้าจะมีความเพ้อฝันขึ้นเล็กน้อย เวลาได้อยู่ใกล้ๆกับชายกลาง สองคนนี้เค้าเป็นคู่หูที่ชอบแลกเปลี่ยนความคิดกันครับ คนนึงนักดู คนนึงนักอ่าน “อันนั้นคือเสาเข็มรึเปล่าครับ” ชายกลางถามขึ้นมาโดยไม่ทันได้ฟังสิ่งที่พี่ชายพูด ส่วนน้องหนุ่มคนเล็กสุดของบ้านก็ชะเง้อลงต่ำเข้ามาหน่อย ยิ้มละห้อยนิดๆเมื่อเห็นว่าต้นชวนชมที่เคยออกดอก ตอนนี้ดอกไม้ร่วงไปหมดแล้ว “นิรันดรรรรรรรรร~~~~~~~~~” ผมตกกะใจ รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำซึ่งอยู่ติดกัน เมื่อได้ยินเสียงร้องเพลงของน้องหญิงใหญ่ “ว้าย ดังไปเหรอคะ” หญิงใหญ่ตกกะใจเหมือนกันเมื่อเห็นผมทำหน้าแตกตื่นเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปหา “ฮ่าๆ จ้ะใหญ่ ซ้อมเพลงร้องให้คุณแม่ใช่ไหม” พรุ่งนี้วันเกิดคุณแม่น่ะครับ ผมเลยคุยกับน้องหญิงใหญ่ว่าเราจะร้องเพลงโปรดของคุณแม่ ชั่วนิจนิรันดร์ กันเสียหน่อย
“ไว้เดี่ยวร้องกันนะจ๊ะ เอาล่ะๆ ทุกคนครับ เรามาส่งการบ้านกันหน่อยเร็ว” ผมหันซ้ายและขวา พยายามกวาดตาไปให้ทั่วบริเวณเพื่อเรียกให้น้องๆทุกคนมารวมตัวกัน
“ก่อนที่เราจะขับรถกลับบ้าน ไหน ใครจะเริ่มก่อนดี กับพื้นที่พิเศษที่พวกเราคิดถึงที่บ้านนี้” ผมทำหน้าที่เสมือนคุณครูประจำชั้น ไล่เรียงถามเอาการบ้านจากลูกศิษย์ (ห้องโปรดด้วย)
“ห้องพระคะ” ศรัทธาของน้องหญิงเล็กแรงกล้าเหลือเกิน “เล็กยังจำได้ถึงสีหน้าพี่ทองที่ยังค่อนข้างกลัดกลุ้มในวันแรกๆที่มากักตัวที่บ้านบางใหญ่ แต่ก็มีเพียงจังหวะแม้ช่วงสั้นๆตอนเช้าช่วงไหว้พระ ที่พี่ทองจะได้สงบจิตใจ มันดีมากคะ” หญิงเล็กเริ่มอธิบาย “การที่เรามีพื้นที่ซึ่งจัดไว้เฉพาะสำหรับงานบางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิดที่ต้องใช้สมาธิ เล็กว่ามันศักดิ์สิทธิ์มากคะ” “จริงด้วยหญิงเล็ก มันทำให้พี่นึกไปถึงห้อง หรือบ้าน พี่ก็ยังสับสนอยู่เสมอเวลาอ้างอิงถึงที่พักที่คอนโดสาทร ตั้งแต่เด็ก ถ้าเรียกบ้าน เพื่อนก็จะงงว่า ไหนนายบอกนายอยู่คอนโด เอาว่าขอเรียกว่าบ้านละกัน พี่กำลังพูดถึงบ้านของพี่สิทธิโชค ซึ่งแกเป็นคนรู้จักกับคุณแม่พี่ พี่เคยขึ้นไปเยี่ยมบ้านแกทีนึง บ้านแกสวยมาก จัดข้าวของเป็นระเบียบ แล้วก็มีพื้นที่โล่งเยอะ แต่ที่สำคัญที่พี่จำติดตาก็คือห้องพระ ซึ่งถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนกระสวยอวกาศหรืออะไรสักอย่างที่พร้อมจะพาเราไปสู่อีกโลก โลกของความสงบและตื่นรู้” หญิงเล็กยิ้มพริ้ม ส่งสัญญาณว่า เธอส่งการบ้านของเธอจบแล้ว ผมหันไปหาชายใหญ่ซึ่งนั่งอยู่ติดเธอ “ใหญ่ชายล่ะครับ”
“ของผมก็เป็นพื้นที่บนชั้นสองนี่แหล่ะครับ พื้นที่โล่งที่เป็นเหมือนโถงรับแขกชั้นสอง ขนาดประมาณจัตุรัส ผมยังจำได้ถึงวันแรกๆที่เราเอาพรมเก็บ เพราะเรากลัวว่าถ้าเรามีเชื้อติดมาด้วย มันอาจจะทำความสะอาดลำบากในภายหลัง เลยตัดสินใจม้วนเก็บเสีย ไหนจะตอนที่เราเอาเสื้อผ้าที่ซักแล้วเข้าวางที่หัวมุม ซึ่งตั้งกองอยู่ใต้หน้าต่างที่เปิดออกไปก็จะเจอบ้านของคุณน้ายา น้าเจา เพื่อนบ้านใจดีที่มีอาหารอร่อยๆมาฝากอยู่เสมอ ที่สำคัญ” ชายใหญ่ทำท่าลูบท้อง “มันก็เป็นพื้นที่ให้เราได้ออกกำลังครับ ใหญ่เห็นแล้วก็ฮึกเหิม อยากจะกลับไปช่วยจัดห้องพี่ทองให้เห็นพื้นมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะบ้านนี้หรือบ้านคอนโด ผมต้องหาซื้อเสื่อโยคะให้พี่ทองแล้วครับ ไม่งั้นเข่าไปในไม่ช้าแน่” ชายใหญ่ไม่ลืมที่จะช่วยจัดการกับเรื่องเล็กๆน้อยๆในชีวิตที่ผมมักจะละเลยลืมไป ผมบอกขอบคุณน้องแล้วเราก็หันมองต่อไปยังน้องสาวคนโต
“ของใหญ่ก็ต้องเป็นเพื่อนบ้านค่ะ เหมือนกับที่พี่ใหญ่ชายเกริ่นไปเรื่องคุณน้าบ้านตรงข้าม การที่เราได้เห็นแกทำงานอยากขยันขันแข็ง มันทำให้เราก็อยากจะขยับแข้งขยับขาไปด้วย ใหญ่หวังว่าคุณน้าๆแกจะได้ใช้กระเป๋าผ้าที่พี่ทองฝากให้แกนะคะ” หญิงใหญ่กล่าว “พี่ก็หวังว่าแกจะชอบ ทั้งๆที่พี่ก็ไม่ได้บอกแกว่าพี่มากักตัวนะ แต่แกก็มีอาหารมาฝาก เป็นน้ำใจที่พี่ลืมไม่ลงจริงๆ แล้วถ้าพูดถึงเพื่อนบ้าน” เราทั้งหมดต่างหันไปที่จุดเดียวกันคืนหน้าต่างบานขวามือของห้องซึ่งมองออกไปเห็นบ้านที่ตั้งอยู่ติดกับสวนหลังบ้าน ซึ่งมีเหมือนต้นเถาวัลย์เลื้อยอยู่หนาจากชั้นหนึ่งขึ้นไปถึงชั้นสอง “ใหญ่ยังคงขอเดาว่าแกจะต้องเป็นศิลปินเหมือนพี่ทองแน่ๆค่ะ ไม่ว่าจะเสียงเพลง หรือว่าเสียงพากย์ไทยจากหนัง ใหญ่ยังจำได้ถึงตอนพี่ใหญ่ชายตากผ้าไป แล้วก็เล่นบท Romeo & Juliet มองใหญ่ผ่านเสื้อผ้าแทนที่จะเป็นตู้ปลาได้ สนุกดีค่ะ” หญิงใหญ่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองต้องหาเวลาดูหนังกับชายใหญ่เพิ่มขึ้นแล้ว พักหลังไม่ค่อยได้ใช้เวลาด้วยกันเลย “ไว้เราดู Phantom Thread กันนะครับใหญ่ชาย” ผมสัญญากับน้อง
“แล้วชายเล็กล่ะครับ พี่ถามคำถามถัดไปเลยดีกว่า เพราะพี่รู้คำตอบแล้วว่าเราต้องชอบสวนที่สุดแน่ๆ ว่าตรงไหนของสวนที่เราชอบที่สุด” ผมเดาใจน้องชายคนเล็กที่ได้เพื่อนใหม่ที่นี่ตั้งแต่กระแต แมว คางคก แมลงปอ ไปยันเต่าทอง “ใช่ครับ ต้นไม้คือเพื่อนที่ดีที่สุดครับ ที่เล็กชอบสุดก็คงเป็นเหล่าดอกไม้นะครับ อาจจะเพราะว่ามันทำให้เล็กนึกถึงเพื่อนๆที่ลอนดอนด้วย แล้วก็ทำให้นึกไปถึงที่ระเบียงห้องพี่ทองว่า เราไม่ได้ปลูกดอกไม้กันเท่าไหร่เลย มันทำให้เล็กได้เห็นความเปลี่ยนแปลงดีครับ คล้ายๆกับเวลาที่เข้าคลาสธรรมะกับพี่เล็กหญิง เหมือนได้เห็นธรรมะในธรรมชาติอีกครั้ง แล้กก็ที่สำคัญ ได้เจอเพื่อนใหม่เยอะด้วยครับ” “เจอได้แม้กระทั่งในรองเท้าเนอะ” เราสองคนขำ เมื่อนึกถึงคางคกที่แอบซ่อนอยู่ในรองเท้า Dr. Martin
“ของกลางนี่พี่ยังเดาไม่ถูกแฮะ ถ้าเป็นคอนโดเราคงต้องตอบว่าชั้นหนังสือ แต่ที่นี่ไม่มีชั้นหนังสืออะไรเท่าไหร่เลย” ชายกลางรอให้ผมพูดจบเกือบจะไม่ไหว น้องที่ชื่นชอบการตอบคำถามมากที่สุดกลับจะต้องรอเป็นคนตอบคนสุดท้าย โถ เจ้าไม้ท้วมนักอ่าน “กลางชอบอ่านหนังสือ เพราะหนังสือบรรจุเรื่องราวเอาไว้ แล้วที่ๆเกิดเรื่องราวมากที่สุดที่บ้านนี้ ก็คงหนีไม่พ้นห้องรับแขกชั้นล่างครับ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาทานกาแฟตอนเช้า ทำงานตอนบ่าย หรือว่าเขียนงานตอนกลางคืน ไหนจะเป็นที่ๆต้องคอยลุ้นไข้ด้วยปรอทวัดไข้เพื่อส่งรายงานการกักตัวอีก กลางรอจะให้พี่ทองรวบรวมผลงานเขียนลงหนังสือเก็บไว้ไม่ไหวแล้วครับ กลางจะช่วยพิสูจน์อักษรเอง” ชายกลางพูดเตือนถึงความฝันเล็กๆของผม “จริงด้วย พี่ก็รอที่จะถือหนังสือเล่มนั้นในมือไม่ไหวเหมือนกัน หนังสือที่คงจะมีแต่รูปชายกลางอ่านหนังสือน่ะนะ” ผมหัวเราะเบาๆ “แล้วมันก็เป็นจุดที่ทำให้นึกถึงคุณแม่ด้วยครับ เก้าอี้โยกตัวโปรดที่แกจะต้องมานั่งยืดขา โยกหน้าโยกหลัง อยู่ทุกๆครั้ง นี่ตะกี้กลางแอบดูที่ชั้นล่างยังนึกดีใจว่าสามีพี่เฉลียวที่ช่วยดูแลบ้านช่วยซ่อมเก้าอี้จนกลับมาใช้ได้ใหม่”
“แล้วพี่ทองล่ะคะ ส่งการบ้านพวกเราบ้าง พี่ทองชอบที่ไหนที่สุด” หญิงใหญ่ถามผมกลับ ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผม “จริงๆพี่ก็ชอบทุกๆห้องนะ ทุกที่ก็ต่างมีความทรงจำดีๆหลงเหลืออยู่ทั้งนั้น แต่ถ้าให้ตอบแบบหล่อๆ ด้วย” ทุกคนก็หัวเราะ “ก็คงเป็นห้องนอนก็ละกัน ลืมเค้าไม่ได้ แต่พี่ก็มีคำตอบเฉพาะของพี่นะ คือพี่จะชอบห้องนี้มากก็ตอนเช้า จริงๆไม่ว่าจะอยู่ไหน ห้องนอน ตอนเช้า ตอนที่เราตื่น พี่จะชอบความรู้สึกนั้นมาก เพราะเหมือนเป็นการที่เราได้ตื่นมารับรู้ว่า เราโชคดีนะ ที่ได้โอกาสในการใช้ชีวิตใหม่อีกหนึ่งวัน ไม่อะไรให้รอได้เจออีกเยอะแยะ แล้วก็แน่นอน กาแฟดำตอนเช้ามันที่สุดแล้ว” ผมตอบน้องๆ ขอบคุณที่น้องๆให้ความสำคัญกับบ้านหลังนี้
อาจเพราะสิ่งที่พวกเราชื่นชมในบ้านหลังนั้น ต่างเป็นสิ่งที่เราไม่มีที่บ้านสาทร เราจึงมองเห็นสิ่งเหล่านั้นได้ชัด ผมอาจจะต้องมองบ้านสาทรใหม่ ด้วยสายตาเสมือคนที่ไม่เคยมีแม้กระทั่งห้องส่วนตัวสำหรับตัวเอง ทั้งระเบียงส่วนตัว (ที่ทำให้ผมเจอกับเพื่อนบ้านทั้งห้านี้) หรือทั้งห้องน้ำส่วนตัวด้วยซ้ำ
พอใจในสิ่งที่มีอยู่ ประโยคที่อาจจะฟังดูแสนจะธรรมดา ตอนนี้ถูกปัดฝุ่นให้กลับมามีความหมายอีกครั้งนึงแล้ว