รีแล็กซ์ๆ
ผมเริ่มหัวข้อของบล็อกวันนี้ด้วยถ้อยคำที่มาจากเทรนเนอร์ สมัยที่ผมเคยไปเทรนอยู่ที่ยิมเมื่อหลายปีก่อน “รีแล็กซ์ๆ ครับพี่ทอง” เทรนเนอร์อั๋นบอกผม อยู่บ่อยๆเวลาที่เราจบแต่ละเซสชั่นของการเทรน วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันที่ผมคิดว่าตัวเองสามารถที่จะบาลานซ์การไปข้างหน้าและถอยหลังได้ค่อนข้างลงตัว
“ทานส้มมั้ยหญิงเล็ก” ผมเตือนตัวเองที่จะบาลานซ์เวลากลับมาให้น้องๆแต่ละคน สายตาหันขึ้นไปหาน้องสาวคนเล็กซึ่งตอนนี้กำลังช่วยผมเหลาดินสอสีก่อนจะเก็บเข้ากล่อง “ไม่เป็นไรคะพี่ทอง ขอบคุณมากคะ เล็กว่าเดี๋ยวเล็กเสร็จตรงนี้ก็คงจะขอตัวไปพักผ่อนก่อนแล้วคะ” หญิงเล็กตอบผม “โอเคครับ ขอบคุณมากๆนะวันนี้ ไหนจะแนะนำพี่เรื่องเฉดสีเขียวของการลงสีต้นไม้วันนี้กับภาพพี่เจน พี่ว่ามันโอเคมากๆเลย” “ยินดีคะ” หญิงเล็กตอบด้วยประโยคคลาสสิคของเธอ แล้วจึงบรรจงเหลาดินสอสีอยู่เงียบๆ ผมจึงเลือกไม่รบกวนเธอต่อ
บางทีการผ่อนคลายหรือการเปลี่ยนจังหวะจากสิ่งที่ทำอยู่ก่อนมาเป็นอีกอย่าง อาจจะตรงกับความเป็นตัวผมตรงที่ผมเป็นคนขี้เบื่อก็เป็นได้ อย่างวันนี้ผมก็แบ่งเวลาเล่นกับน้องๆหลายคนเลยทีเดียว อย่างตอนวาดภาพแล้วมีช่วงเวลาจิตตก ผมก็เปิดธรรมะฟังไปด้วย ธรรมะจากหลวงพ่อไพศาล
“โลกธรรม 8 มาอีกแล้วค่ะพี่ทอง แล้วท่านก็เทศก์ได้ทันสมัยมาก มีอ้างอิงไปถึงเรื่องอย่างการปล่อยความคาดหวังให้คนมาไลค์รูป ว่าต้องรู้ทันความคาดหวังประเภทนั้น เพื่อทำใจตัวเองค่ะ เล็กว่าพี่ทองคงจะได้อะไรไปเยอะจากการฟังธรรมวันนี้” หญิงเล็กสรุปใจความในส่วนที่โดนใจผมเช่นกัน ขณะที่เธอยืนใบไม้ที่ไปเก็บมาจากสวนที่ระเบียงมาให้ผมดูเป็นการอ้างอิงว่าจริงๆใบไม้ใบนึงยังคงมีสีเขียวหลายเฉดอยู่ในใบเดียวกัน เพื่อช่วยเตือนให้ผมเลิกหมุกหมุ่นกับความเพอร์เฟ็คที่ไม่ได้มีอยู่จริงในธรรมชาติ
“ใช่จ้ะเล็กหญิง แล้วก็คลิปล่าสุดที่ท่านเทศก์เกี่ยวกับผู้หญิงคนนึงที่เค้ายอมทำตามสิ่งที่พี่สาวบอก เพราะกลัวว่าตัวเองจะโดนเกลียด เพราะต้องการการยอมรับ แล้วก็เรื่องของความทุกข์ที่เกิดจาก ‘ความคาดหวัง’ ที่มันไม่ได้เกิดจากสิ่งภายนอก แต่มาจากภายในใจของเรา” ผมไม่วายคาดหวังให้หญิงเล็กหันมายิ้มหรือส่งเสียงอื้มเป็นการขานรับ แต่เธอกลับไร้ซึ่งสัญญาณตอบรับใดๆ มาอีกแล้ว อีกหนึ่งจังหวะเล็กๆของชีวิตที่โผล่มาให้ผมได้ฝึกใจตัวเอง
หรือช่วงเย็นๆ ในจังหวะที่ผมเริ่มรู้สึกล้ากับการวาด ตอนแรกที่ผมก็กะจะโทรไปคุยเล่นกับเพื่อนผมอย่างพี่พัชรี แต่ผมก็นึกขึ้นได้ว่าเราน่าจะลองใช้เวลาแบบนี้ เปลี่ยนกิจกรรมไปทำอย่างอื่นที่วางไว้แทนเช่นการอ่านหนังสือ ผมเลยหยิบหนังสือ Alchemist มาอ่าน หลังจากที่จำได้ว่าชายกลางเค้าพรรณนาความดีงามของหนังสือเล่มนี้ไว้ดีมาก “มันมีการเปรียบเปรยอยู่เยอะมากครับพี่ทอง ไว้พี่ทองอ่านจบแล้วมาบอกกลางนะครับ ว่าจะเอายังไงกับความฝันต่อดี” ชายกลางบอกผม “แล้วก็ไม่ต้องตกใจนะครับ ผมทั้งจดโน้ต ขีดเส้น เส้นปากกาดำ เส้นปากกาแดง มาร์กเกอร์ เต็มไปหมดในเล่มเลยครับ ฮ่าๆ” แล้วเค้าก็เดินตรงไปยังชั้นหนังสือที่เก็บนิตยสาร Monocle สงสัยเค้าคงอยากพักจากการอ่าน fiction บ้าง
ที่สำคัญ ความสนุกของวันนี้ก็คงไม่พ้นตอนกลางวันที่ผมได้ออกกำลังกับน้องใหญ่ชาย วันนี้ออกด้วยกันถึงตั้งสามคลิป “วันนี้เราเริ่มจากการวอร์มด้วยคลิปที่พี่ทองเล่นประจำ แล้วก็ต่อด้วยการเทรนส่วน Lower Abs แล้วก็จบด้วยการยืดนะครับ ผมแอบเห็นพี่ทองพยายามดัดหลัง แล้วมีเสียงกรึกๆดังออกมาหลายทีแล้ว ไว้เรามาลองดูกันครับว่าถ้ายืดบ่อยๆแล้วจะเป็นยังไง”
ผมชอบมากเวลาที่ตัวเองสามารถจะทำอะไรได้ต่อเนื่อง แทนที่จะติดอยู่กับความคิด โดยเฉพาะความคิดที่นำพาความทุกข์มาให้ เช่นเรื่องราวฝังใจในอดีตบางเรื่อง การรีแล็กซ์ในความหมายของการถอนตัวออกจากกิจกรรมหนึ่งเพื่อเปลี่ยนเป็นอีกกิจกรรม ยังเป็นการแสดงให้ผมเห็นถึงความเป็นไปได้ของการใช้ชีวิต ที่ว่าผมมีทางเลือกที่จะทำอะไรอีกตั้งมากมาย เพียงแค่เรารู้จัก คิดให้สร้างสรรค์ เสียหน่อย แทนที่จะนั่งเฉา หรือบ่นตีโพยตีพายกับห้วงความรู้สึกที่เราดำว่ายอยู่ตรงนั้น
คล้ายๆเหมือนผมจะได้บทเรียนว่า เวลาทีเรารุ้สึกอยากจะผัดผ่อน หรืออิ่มตัว (หลังจากทำอะไรไปนานๆ) แทนที่จะเอาเวลาไปเสียกับความรู้สึกเบื่อๆเซ็งๆขี้เกียจๆ ให้ไปหาอะไรอย่างอื่นทำแทนดีกว่า ประมาณนั้นมั้งครับ
แล้วการรีแล็กส์ของผมยังคงหมายถึงการพักออกจากอารมณ์ร้ายๆ เช่นอารมณ์โกรธ หรือฉุนเฉียวอีกด้วย อย่างช่วงเวลาที่ผมกำลังออกกำลังกายแล้วก็ต้องคอยรับโทรศัพท์จากเหล่าพี่ๆ (หรือน้องๆกันนะ) เดลิเวอรี่ ซึ่งเค้าก็โทรมาตามหน้าที่เค้านั่นล่ะครับ แต่ผมดันเป็นคนที่โดนขัดจังหวะเวลาจมอยู่ในสมาธิ แล้วจะชอบการความขัดเคืองใจ ซึ่งอย่างวันนี้ ก็พยายามผ่อนคลายจากความรู้สึกตรงนั้นด้วยการไม่สนใจ แล้วก็อยู่กับการออกกำลังต่อไปๆ
“แค่สิบห้านาทีสำหรับการยืดตัว แต่ผมว่ามันคุ้มค่ามากนะครับ” ชายใหญ่บอกผมเมื่อเราเสร็จสิ้นสามคลิปวันนี้จากยูทูบ MadFit “จริงเลย พี่อยากจะทำแบบนี้ทุกวัน ถึงแม้จะมีหลายท่าที่พี่ตัวแข็งมากๆ ดัดไม่ได้เหมือนในวิดิโอ แต่พี่ก็ชอบที่จะทำตามเค้าอยู่ดี นี่เดี๋ยวคงต้องไปหาซื้อโยคะแมตมาแล้วละมั้ง ใช้พรมแบบนี้ไม่น่าเวิร์ค มันน่าจะไม่เหมาะกับเวลาที่เราเหงื่อออกสักเท่าไหร่ มาครับใหญ่ มารีแล็กซ์ออกจากอารมณ์นี้ แล้วมากินเกี๊ยวซ่าจากฮะจิบังกัน มีสั่งมาตั้งเยอะวันนี้” แล้วผมก็พาน้องคนโตเปลี่ยนอิริยาบถอีกครั้ง