เรื่องเล่าใต้ห้องนอนตอนที่ 13 : มะปราง - มะยงชิด

"จริงๆแล้วไม่ใช่ว่ามะยงชิดไม่ว่างหรอก เราแค่ทะเลาะกัน" จู่ๆมะปรางก็สารภาพกับหญิงใหญ่ในขณะที่พวกเธอกำลังเดินเล่นไปตามชั้นวางหนังสือนิยายสืบสวนสอบสวนที่เป็นเล่มแนะนำจากบรรณารักษ์

"อะ อ้าว เหรอจ๊ะ มะปรางโอเคหรือเปล่า" หญิงใหญ่ไม่ชอบที่จะเห็นคนทะเลาะกัน ยิ่งเป็นบ้านไม้หัวด้วยแล้ว ถึงจะเป็นมนุษย์ต้นไม้ แต่แน่นอน อาศัยอยู่ด้วยกันก็ต้องมีบ้างอยู่แล้วที่จะต้องทะเลาะกัน เช่นครั้งนึงหญิงเล็กกำลังชงชาเอิร์ลเกรย์เพื่อดื่มก่อนเล่นโยคะ แต่บังเอิญว่าตอนนั้นมีญาณว่าม้าน้ำคอร์นกำลังตกอยุ่ในอันตรายก็คือกำลังโดนสาหร่ายพันลำตัวทำให้ว่ายน้ำไปไหนไม่ได้ สาหร่ายในแม่น้ำเจ้าพระยาเนี่ยแหล่ะ หญิงเล็กเลยมุดดินไปช่วย กลับมาอีกทีเธอโมโหแทบตาย ว่าใครเอาชาเอิร์ลเกรย์ของเธอไปทิ้ง ปรากฎว่าเป็นพี่ชายใหญ่ ด้วยหวังดีว่าไม่อยากให้ห้องดูสกปรกเลอะเทอะ คิดว่าคงไม่มีใครทานแล้วก็เลยเก็บไป จำได้ว่าหญิงเล็กโกรธเสียจนแยกต่างถ่ายจิตไม่ได้ไปเป็นอาทิตย์ เพราะต้องจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองก่อน

"ถ้าโอเคแล้วชั้นจะพูดออกมาเหรอ" หญิงใหญ่ถึงกับชะงักเมื่อมะปรางพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูแข็งกระด้างขึ้นมาทันที แต่เธอก็เข้าใจดี ว่าคนที่เจ็บมาก่อน ย่อมหาทางที่จะระบายออกถึงความเจ็บนั้น เธอพยายามสงบจิตใจตัวเองลงจากความตกใจ แล้วจึงถามต่อ "มีอะไรให้ชั้นช่วยได้บ้างมั้ยจ๊ะมะปราง"

"ก็มะยงชิดน่ะสิ ชั้นก็บอกแล้วว่าชั้นน่ะ ไม่ชอบกินเต้าหู้ ตอนที่ไปซื้อของหวานกินกัน อยู่ก็ซื้อไอศกรีมรสเต้าหู้มาให้ แล้วตัวเองก็กินไอศกรีมมะพร้าวสบายใจเฉิบ มันน่าหงุดหงิดมากรู้มั้ย เงินทองก็ไม่ได้จะหามาง่ายๆ ที่ไปคั้นน้ำส้มขายกันวันเสาร์อาทิตย์ ลำบากกันแทบตาย ไหนจะต้องคอยรับหน้าผู้คนเอาแต่มาถามว่าคนไหนคือมะปรางคนไหนคือมะยงชิด แค่นี้ก็เหนื่อยใจแทบตายแล้ว แล้วดูซิ ได้เงินมาทั้งที ยังเอามาใช้แบบไม่คิดแบบนี้ มันได้เรื่องซะที่ไหนกัน" มะปรางบ่นออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน จากเรื่องนี้กระโดดไปเรื่องโน้น หญิงใหญ่พยายามมองหาหนังสือสืบสวนที่พอจะมีหน้าปกที่ดูทำให้สงบจิตสงบใจลงได้ แต่ก็มีแต่ภาพ มีด เลือด คนร้าย พวกเธออยู่ในจุดที่ไม่เหมาะกับการให้อภัยใครบางคนเอาเสียเลย

"เป็นชั้น ชั้นก็อาจจะหงุดหงิดนะ ชั้นก็ชอบกินไอศกรีมมาก เข้าใจหัวอกเธอดีถ้าเกิดได้กินรสชาติที่ผิดไป แต่ว่าบางทีมะยงชิดก็อาจจะลืมเฉยๆก็ได้นะจ๊ะ" หญิงใหญ่รีบคว้าเอาเล่มที่หน้าปกเป็นดอกกุหลาบสีแดงสวยสด ไม่แน่ใจหรอกว่าพันธุ์อะไร แต่นี่มันดอกไม้นะ ใครๆเห็นดอกไม้ก็น่าจะอารมณ์เย็นลงได้สิน่า เธอคิดในใจ

"เธอจะบ้าเหรอหญิงใหญ่!" ถึงตรงนี้หญิงใหญ่ตกใจเข้าไปอีกระดับ มะปรางดูจะไม่เก็บกดความรู้สึกอะไรไว้อีกแล้ว "เต้าหู้นะ เต้าหู้! ไม่ใช่วนิลลา! ใครมันจะไปบ๊องตื้นขนาดซื้อไอศกรีมรสเต้าหู้ได้ ถ้าเกิด เห้อ ถ้าเกิดไม่ได้ตั้งใจทำให้ชั้นหงุดหงิดไงล่ะ" มะปรางเริ่มลดเสียงลงหน่อยหนึ่งเมื่อเห็นบรรณารักษ์ประจำชั้น น่าจะเป็นคุณมะขามเดินผ่านไปเงียบๆ ก่อนพวกเธอจะขึ้นลิฟต์ เห็นบอร์ดประกาศพนักงานดีเด่นอยู่ว่าเป็นคุณมะขามคนนี้เนี่ยแหล่ะ หญิงใหญ่จะเป็นคนขี้ลืมก็จริง แต่เธอก็จำหน้าคนได้แม่น เธอติดใจกับคุณมะขามเพราะหน้าตาเธอช่างดูน่าเกรงขามเสียจริง

"แสดงว่ามันอาจจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอีกเหรอจ๊ะเรื่องนี้" หญิงใหญ่จู่ๆก็หยิบหนังสือมาดมที่ปก เธอแค่สงสัยว่าหนังสือจะมีกลิ่นดอกกุหลาบด้วยมั้ย ชายกลางเคยเก็บตังค์ซื้อหนังสือกลิ่นลูกพีชมาครั้งนึง ทำให้เธอจำได้แม่น

"เห้อ ชั้นพอละ ขอบคุณเธอมากนะหญิงใหญ่ ชั้นว่าชั้นจะงอนไม่พูดกับมะยงชิดไปเลยดีกว่า นานเท่าไหร่ดีนะ หนึ่งวัน" เธอพูดแล้วสีหน้าก็เริ่มดูสบายใจขึ้นเสียอย่างนั้น "หนึ่งเดือน" เธอเริ่มยิ้มมุมปาก "หรือว่าไตรมาสนึงไปเลย!" แล้วเธอก็หมุนตัวครบรอบพอดี พร้อมๆกับสีหน้าที่กลายมาหมองหม่นเช่นเดิม

"ชีวิตคนเราสั้นแสนสั้นนะจ๊ะ" มะปรางทำท่าทางแปลกใจเมื่อหญิงใหญ่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด "ชั้นว่าเรื่องนี้คนที่ไม่สบายใจตอนนี้แน่ๆคนนึงก็คือมะปราง เพราะว่ามะปรางอาจจะกำลังแบกความโกรธเอาไว้อยู่" หญิงใหญ่บอก ตอนนี้พวกเธอเดินไล่มาตามแต่ละชั้นหนังสือจนมาสุดที่หน้าต่างซึ่งเป็นทรงวงกลมอยู่ที่ผนังฝั่งที่มีโต๊ะเดี่ยวกันเป็นคอกวางอยู่เป็นตับ มีเหมือนนักเรียนสองคนนั่งอยู่ไม่ไกลกำลังนั่งจู๋จี๋กัน เหมือนคนนึงกับชื่นชมนาฬิกาข้อมือของอีกคนอยู่ แต่ดูใกล้ชิดกันเป็นพิเศษ ทั้งสองหันหน้าหนีออกจากนักเรียนทั้งสองเพราะไม่อยากไปรบกวน "แบกไว้เฉยๆมันหนัก วางมันลงดีมั้ยจ๊ะ ชั้นก็ไม่เก่งเหมือนกัน เรื่องการจัดการกับความรู้สึกเนี่ย ส่วนมากชั้นจะไปลงที่การร้องเพลง หรือว่ามะปรางมีกิจกรรมอะไรที่ชอบทำมั้ย" หญิงใหญ่เริ่มนึกถึงความเป็นไปได้อื่นๆหลังจากที่ได้เริ่มแลกเปลี่ยนคำพูดกับเพื่อน

"ชั้นชอบไปเที่ยวทะเล" มะปรางบอก "ทะเลมันเงียบ มันทำให้ชั้นลืมเรื่องทุกๆอย่างไปในช่วงขณะ ชั้นหมายถึงดำน้ำในทะเลน่ะนะ คุณอาชั้นทำรีสอร์ทอยู่แถวเกาะกูด เธอเคยไปมั้ย" มะปรางเริ่มมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอคงชอบทะเลมากเสียจนทำให้เรื่องนี้ดึงเธอออกจากความคิดก่อนหน้าได้

"ทั้งชีวิตชั้นยังไม่เคยได้ออกไปไหนไกลเลยนอกจากกรุงเทพเนี่ยแหล่ะจ๊ะ มีล่าสุดก็ย้ายบ้านกับน้องๆไปอยู่ที่โพรงของซากต้นไม้ใหญ่ที่บางกระเจ้า ที่นั่นก็อาจจะเรียกว่าไกลสุดแล้วจากตัวเมือง พวกเราเป็นมนุษย์ต้นไม้เมืองมาตั้งแต่เกิดเลย" หญิงใหญ่บอกมะปราง

"ไว้มีโอกาสเราไปเที่ยวด้วยกันเถอะ ชั้นขอบคุณเธอมากนะ ที่อุส่าห์ฟังเรื่องของชั้น" มะปรางบอก พลางมองออกไปนอกหน้าต่าง สงสัยว่าตอนนี้ถ้ามองจากข้างนอก พวกเธอจะอยุ่ตรงส่วนไหนของอาคารทรงเห็ดแชมปิญองแห่งนี้

"ชั้นก็บ่นไปงั้นแหล่ะ ชั้นก็แค่หวังว่าจะทำให้มะยงชิดใส่ใจชั้นได้มากกว่านี้สักหน่อย เพราะชั้นยังใส่ใจเค้ามากเลย ชั้นรุ้หมดล่ะ อะไรที่เค้าชอบไม่ชอบ อย่างเช่นถ้าเกิดเผลอบีบมะนาวใส่ผัดไทให้เค้ากินหน่อยนะ เป็นได้บ้านแตกกันเลยทีเดียว" แล้วเธอก็ขำออกมาเล็กน้อย หญิงใหญ่เลยสบายใจขึ้นมาหน่อย เธอก็หวังว่าความโกรธจะให้อภัยมะปรางแล้วก็ออกไปจากตัวเธอเสียที

Previous
Previous

เรื่องเล่าใต้ห้องนอนตอนที่ 14 : ความรักบูดๆ

Next
Next

เรื่องเล่าใต้ห้องนอนตอนที่ 12 : ห้องสมุด