หญิงใหญ่ - บอนไซซัง ตอนที่ 7: คุณฟักกับเสื้อกั๊กนักปีนเขา
"เข้ามาเลย ระวังทางดีๆนะ บางจุดจะเรียบ บางจุดจะตะปุ่มตะป่ำ พอดีเจ้าของร้านหนังสือแห่งนี้เค้าชอบปีนเขา เค้าเลยอยากทำให้พื้นสัมผัสเหยียบแล้วนึกไปถึงการเดินเที่ยวตามถ้ำตามป่าเขาอะไรแบบนี้น่ะ" คุณมันเทศนำทางหญิงใหญ่และบอนไซซังเข้าสู่ด้านในของร้านหนังสือบินได้ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆกับถนนนิมมานต์ซอย 1 ไม่ลืมที่จะแปลสิ่งที่พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นไปด้วย
หญิงใหญ่ตื่นเต้นไปหมด นี่มันเกินความคาดหวังเธอไว้มาก ตั้งแต่ไอเดียตอนแรกที่เธออยู่บ้าน ในขณะที่เห็นพี่ชายใหญ่กำลังทยอยสร้างทางลับใต้ห้องนอนพี่ทองมากมาย ตอนนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกว่าอยากจะหาอะไรใหม่ๆทำให้กับชีวิตตัวเองบ้าง ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้ที่ได้มาเหยียบสถานที่ใหม่ๆไกลถึงเมืองเชียงใหม่ แล้วยังได้มาเจอกับสถานที่แปลกตาเช่นนี้
"ต่างจากร้านหนังสือที่ใหญ่เคยอ่านในหนังสือเลยนะคะ ปกติเข้าใจว่าร้านหนังสือจะตั้งอยู่ไม่ในตึกก็ริมถนนใหญ่ที่มีคนสัญจรไปมา มีหน้าต่างกว้างแต่งอยู่ที่หน้าร้าน แล้วก็มีหนังสือแนะนำวางอยู่ อ้าว" หญิงใหญ่พูดไม่ทันจะจบคำ จากถ้ำลอดเมื่อครู่ ทั้งสามก็พาตัวเองออกมาสู่พื้นที่ใหญ่โล่ง เป็นลักณะเหมือนโดมทรงกลมที่มีหลังคาเปิดไว้ ตรงกลางมองเห็นเป็นตึกขนาดย่อมที่มีรูปร่างคล้ายกับต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงขนาดยักษ์ มีหน้าต่างกระจกใสล้อมโดยรอบที่บริเวณชั้นหนึ่ง สวนโดยรอบหอมหวลไปด้วยกลิ่นของดอกราชาวดี เธอรู้ดีว่านี่คือกลิ่นของดอกราชาวดี เพราะที่หอสมุดกลางของมหาลัยก็ปลูกต้นนี้ มองขึ้นไปด้านบนเห็นเป็นท้องฟ้าปลอดเมฆ
"เป็นไปได้ยังไงกัน สักครู่นี้ตอนเดินเข้ามาใหญ่ไม่เห็นว่าท้องฟ้าปลอดโปร่งขนาดนี้" หญิงใหญ่ถาม แต่แล้วก็ได้รับคำตอบจากมนุษย์ต้นไม้แปลกหน้าที่โผล่ออกมาจากทางด้านหลัง
"อะไรก็เป็นไปได้ถ้าเรามีความรู้ความเข้าใจมากพอครับ" มนุษย์ต้นไม้ที่มีรูปร่างเหมือนฟักโผล่ออกมาสวมกอดกับคุณมันเทศ "คุณฟักกกก คิดถึงจริงๆ เป็นไงครับ หนีไปปีนเขาที่ไหนมาล่ะครับเสาร์อาทิตย์ทีผ่านมา" คุณมันเทศพูดคุยอย่างสนิทสนมกับชายผู้ซึ่งหญิงใหญ่เดาว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้าน คุณฟักมีลักษณะเป็นทรงรีในแนวตั้ง ตัวสูงประมาณเกือบเท่าพี่ชายใหญ่ได้ สวมแว่นทรงสามเหลี่ยม แล้วที่เตะตาที่สุดก็คงเป็นเสื้อกั๊กลวดลายเหมือนผ้าขาวม้าของเขา เหมือนมีสายอะไรห้อยออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้านบนด้วย
"ฮ่าๆ ขนาดไม่ได้แวะมานานก็ยังจำเรื่องของผมเก่งเหมือนเดิมนะครับคุณมันเทศ ไปเที่ยวถ้ำเมืองออนมาครับ ทำเอาคุณลุงแห้วกับคุณป้ามอสงอนกันไปเลย เพราะว่าไม่มีใครมาเม้ามอยเรื่องหนังสือด้วย" คุณฟักพูดไปก็ขำไป แล้วก็หันมาทักทายทำความรู้จักกับหญิงใหญ่แล้วก็บอนไซซัง โดยมีคุณมันเทศรับหน้าที่ล่ามเช่นเคย
"ยินดีต้อนรับสู่โลกใบใหม่อีกหนึ่งใบนะครับ เป็นเกียรติสำหรับผมแล้วก็หนังสือที่ร้านที่จะได้มีโอกาสมาพบปะกับมนุษย์ต้นไม้หน้าใหม่ หวังว่าพวกคุณจะได้มีประสบการณ์การสนทนาที่ดี" หญิงใหญ่ผงะไปเล็กน้อยเมื่อคุณฟักพูดราวกับว่าหนังสือในร้านเค้าจะพูดได้งั้นเชียว
"ว่าแต่ คุณหญิงใหญ่ชอบอ่านหนังสือแนวไหนครับ ให้ผมได้พูดคุยพลางพาชมร้านหนังสือด้านในดีกว่านะครับ" คุณฟักยื่นแขนออกมาให้หญิงใหญ่ควงเพื่อพาเดินเข้าสู่ด้านในร้าน ลักษณะการพูดที่นุ่มนวล น้ำเสียง รวมถึงการขยับร่างกายของเค้า ช่างให้ภาพสุภาพบุรุษในอุดมคติ นึกไปถึงนิยายรักๆใคร่ๆสมัยที่เธอเคยอ่านตอนเด็กกับเพื่อนๆ
"ชะ ชอบ" หญิงใหญ่เอ่ยปากตอบ พลางหันหน้าไปทางบอนไซซังอย่างไม่ทันได้รู้ตัว แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ คุณมันเทศพูดสวนขึ้น "แหม คุณฟัก แค่ทางเข้าสุดลี้ลับของคุณ เพื่อนผมก็ตื่นเต้นทำตัวไม่ถูกแล้ว มาถามคำถามยากๆอย่างหนังสือโปรด ใครมันจะไปคิดได้ทันตอนนี้ล่ะครับ ไปๆ เราเข้าไปข้างในกันก่อนดีกว่าครับ โดโสะ บอนไซซัง นะคะนิ ไฮริมาโชวโยะ (เชิญครับบอนไซซัง เราเข้าด้านในกันเถอะครับ)"
คุณฟักขำอย่างเขินๆ แล้วทั้งหมดก็เดินตามกันเข้าไปเป็นคู่สู่ยังตัวอาคาร พร้อมกับกลิ่นหอมโชยมาร่ำลาจากดอกราชาวดี