หญิงใหญ่ - บอนไซซัง ตอนที่ 9 : สัมผัสแรก
หญิงใหญ่โบกมือร่ำลาให้กับคุณมันเทศ ซึ่งเดินลงบันไดวนไปกับคุณฟัก เธอสังเกตเห็นเหมือนว่าพื้นของบันไดที่มีลักษณะเหมือนกับเถาวัลย์หรือรากของต้นโกงกางขนาดใหญ่สามารถเลื่อนลงไปได้เอง
ตอนนี้เธอรู้สึกเขินเมื่อต้องยืนลำพังกับบอนไซซัง เอาจริงๆตัวเธอเอง ถ้าไม่ได้นับตอนอยู่ที่โรงเรียนหรือว่ามหาลัยแล้ว ก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสจะต้องสุงสิงอยู่กับมนุษย์ต้นไม้ผู้ชายกันสองต่อสองแบบนี้ที่ไหน ไม่เพราะพี่ทองหวงเธอไว้ หรือก็อาจจะเป็นพี่ชายใหญ่ของเธอเอง หรืออาจจะเป็นเพราะส่วนสูงของบอนไซซังกันแน่นะ ที่ทำให้เธอนึกไปถึงรุ่นพี่หน่อไม้ตอนที่เธอเคยแอบปิ๊งสมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนพฤกษาแมกไม้
เธอพยายามมองหาคุณน้ำเต้าอินเทิร์นเพื่อจะหนีความกระอักกระอ่วนนี้ แต่ก็เดาว่าเธอคงกำลังเอาหนังสือพริกสามสีไปเก็บที่ชั้นสี่ เพราะมองไปเห็นแต่กองหนังสือที่ตั้งอยู่บนชั้นติดล้อเลื่อน
"อาโน" บอนไซซังส่งเสียงมาเหมือนพยายามจะพูดคุยอะไรบางอย่าง ตั้งแต่ช่วงสายที่เดินผ่านร้านค้าในซอย 1 ของถนนนิมมานเหมินทร์ เธอได้ยินบอนไซซังพูดภาษาไทยได้บ้างตอนที่โต้ตอบกับคุณมันเทศ แต่ก็เป็นคำสื่อสารทั่วไปอย่าง ‘สวัสดีครับ’ หรือว่า ‘ขอบคุณครับ’ แต่เธอยังไม่ได้ยินคำหรือประโยคอื่น
บอนไซซังทำท่าเหมือนกำลังผัดข้าว ถือตะหลิวกวักขึ้นกวักลง ตอนแรกเธอคิดว่าเค้าหิวข้าว เธอเลยทำท่าลูบท้องเพื่อถามกลับในสิ่งที่เธอคิด บอนไซซังขำเบาๆ กับสีหน้าเจื่อนๆ แล้วจึงหันไปหยิบหนังสือที่อยู่ข้างๆบนชั้นหนังสือขายดี หน้าปกเขียนว่า 'ทำใจอย่างไรเมื่อใบเหลือง' เค้าไม่ได้สนใจว่าหนังสือจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร เพียงแต่หยิบมาถือไว้ที่มือข้างซ้าย ประกอบท่าทางเช่นเดิม คือใช้มือข้างขวาทำท่าเหมือนกำลังผัดข้าวผัด ตอนนี้เธอเลยเข้าใจแล้วว่าเค้าคงกำลังจะบอกว่า อยากไปดูหนังสือทำอาหาร
เนื่องจากเธอก็ยังไม่ได้มีลิสต์หนังสือที่สนใจช่วงนี้ ตอนที่อยู่ที่บ้านพี่ทอง ถ้าเธอสนใจอะไร ถ้าไม่ถามเอาจากชายกลาง เธอก็จะถามเพื่อนๆของเธอผ่านรูทส์* แค่คุณพี่ยี่หร่ากับมะปราง ก็ตอบครอบคลุมเกือบจะทุกเรื่องที่เธออยากจะรู้แล้ว เธอจึงอาสาพาบอนไซซังเดินไปดูหนังสือทำอาหารด้วยกัน
เธอเริ่มกวาดตามองหาตามด้านบนของชั้นหนังสือที่วางเรียงเป็นลวดลายของกลีบกุหลาบ จริงอย่างที่คุณฟักบอก เมื่อเธอลองหรี่ตาดูดีๆ บนป้ายที่ติดอยู่ตามชั้นหนังสือ จะมีคำอธิบายหมวดหมู่หนังสือ เขียนอยู่หลายภาษา ทั้งไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เธอจำตัวอักษรจีนกับเกาหลีได้ดี เพื่อนแก๊งของเธอตอนเด็กขอใช้โควตาจำนวนหนังสือของเธอ ยืมหนังสือนิยายภาษาต่างประเทศออกมาจากห้องสมุด เอาออกมาฝึกแปลภาษาบ้าง รวมตัวละครไว้ในสารานุกรมส่วนตัวเพื่อใช้อ้างอิงต่อบ้าง อยู่บ่อยๆ
เธอใช้ทั้งมือและผมใบไม้คล้ายตำลึงของเธอ ชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปยังทิศตรงกลางของห้อง ซึ่งมองเห็นเป็นปล่องแนวตั้งที่มีต้นไม้ปลูกอยู่แน่น ก่อนจะออกเดินไปด้วยกันกับบอนไซซัง เผื่อว่าจะมีแผนที่หรือป้ายข้อมูลที่บอกข้อมูลของหมวดหมู่หนังสือและตำแหน่งที่ตั้งไว้เพื่อทำความเข้าใจ
เมื่อเธอเดินเข้าไปประชิดเกือบจะถึงต้นไม้ซึ่งตอนนี้เธอพอมองออกแล้วว่าคือต้นพลูด่างเสียเป็นส่วนใหญ่ ที่ระดับสายตาก็มีป้ายที่เขียนด้วยลายมือเป็นภาษาไทยติดไว้อยู่ พอเธอจะเริ่มอ่านดูหน่อย เธอก็สัมผัสได้ถึงใบไม้ของบอนไซซัง แตะอยู่ที่ไหล่ซ้ายของเธอ หันไปจึงพบว่าเค้าใช้เส้นผมแตะเธอเพื่อเรียกเธอให้ดู หนังสือปกแข็งเล่มโตที่เปิดอ้าวางอยู่บนใบบัวยักษ์ ซึ่งลอยอยู่บนผิวน้ำในอ่างแก้วใสอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
เธอประหลาดใจได้เพียงครู่หนึ่งก็ยิ้มออกมา เพราะว่าบนหน้าปกเป็นใครเสียไม่ได้นอกเสียจากคุณอาชมพู่ ญาติสนิทของครอบครัวไม้หัวของเธอนี่เอง ตัวเธอเองไม่ได้เจอคุณอา (ที่ไม่ได้ถอดจิตมาหา) นานแล้ว จำได้ว่าล่าสุดคือคุณอาย้ายที่พักจากอุบลไปฝึกกรรมฐานอยู่ที่ทิเบต จะมีก็แต่หญิงเล็กที่จะแวะเวียนไปหาแกเพื่อฝึกวิชาด้วยกันปีละครั้ง
หญิงใหญ่พยายามนึกวิธีในการสื่อสารว่าผู้เขียนเป็นคุณอาของเธอเอง แล้วเธอก็ถึงได้นึกออกว่าจริงๆในแอพพลิเคชันรูทส์นั้นมีฟังค์ชันในการแปลอยู่ เธอน่าจะคิดได้ไวกว่านี้ เธอหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อพิมพ์ข้อความก่อนส่งให้บอนไซซังอ่าน
‘คุณอาของฉันเป็นผู้แต่งหนังสือเล่มนั้นเองค่ะ แกเป็นปรมาจารย์ในการทำสมาธิค่ะ’ นั่นคือสิ่งที่เธอพิมพ์บอกไป บอนไซซังทำหน้าตาตื่นเต้น เงยหน้าขึ้นมองหญิงใหญ่ชี้นิ้วลงไปที่โทรศัพท์ส่งสัญญาณเพื่อขอพิมพ์บ้าง เขาพิมพ์ข้อความกลับมา เมื่อหญิงใหญ่พยักหน้าตอบรับให้เค้าตามสบาย
‘ผมก็ลืมนึกไปเลยว่าเราคุยกันผ่านฟังค์ชันแปลก็ได้ คุณอาของคุณวิเศษจริงๆครับ ว่าแต่ ยินดีที่ได้รู้จักอีกทีนะครับ คุณชื่ออะไรนะครับ" หญิงใหญ่รับมือถือกลับคืนมาจากบอนไซซัง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ผมใบไม้ที่เธอเผลอแตะเอา แต่กลับเป็นปลายนิ้วมือของเค้า เธอสะดุ้งจนทำเอาโทรศัพท์ตกลงไปในบ่อแสดงหนังสือ
ต๋อม!
*รูทส์ เป็นโซเชียลมีเดียของชาวมนุษย์ต้นไม้ ถูกพัฒนามานานแล้วก่อนการเกิดขึ้นของ facebook เสียอีก